2 มี.ค. – “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหายรวม 3 คน ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ หลังจากถูกกลุ่มคนขับรถแท็กซี่รุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
“กัน จอมพลัง” พาคุณเอ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย พร้อมเพื่อนอีก 2 คน เข้าแจ้งความความที่ สน.ทองหล่อ โดยคุณเอ เผยว่าวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ตัวเองและเพื่อนอีก 2 คน เดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านอโศก ขณะอยู่ภายในร้านทุกคนก็เต้นกันตามปกติ จู่ๆ มีชาวต่างชาติคนหนึ่ง ซึ่งมากับผู้หญิงไทย เดินมาหาเรื่องตนภายในร้าน หาว่าตนและเพื่อนเต้นไปชน ซึ่งตนก็ได้ขอโทษไปแล้ว หลังจากนั้น 5 นาที ตัวเองเดินออกมาจากผับเพื่อจะไปเที่ยวต่อ ได้เห็นชาวต่างชาติคนเดิมรออยู่หน้าร้านแล้วพยายามเข้ามาหาเรื่องตนอีก จึงมีการโต้เถียงกันสักพัก ชาวต่างชาติได้เดินเข้ามาหาตนได้มีการผลักกันไปมา และตนได้ถอดรองเท้าปาไปที่ชาวต่างชาติคนนั้น
ขณะเดียวกันมีกลุ่มแท็กซี่ที่จอดรอผู้โดยสารเดินเข้ามาแล้วบอกว่า รองเท้าของตนไปโดนรถแท็กซี่ จากนั้นกลุ่มแท็กซี่ดังกล่าวประมาณ 7-8 คน ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายตนเองและเพื่อน ตนพยายามเอามือปัดป้องที่ใบหน้า แต่ตอนนั้นก็ถูกทั้งต่อย เตะ จากนั้นตนเองหน้ามืดและมารู้สึกตัวอีกทีมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ มีเลือดออก ซึ่งคาดว่าเกิดจากของแข็ง มีรอยฟกช้ำบริเวณร่างกายหลายจุด ทำให้ตนเองนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 คืน และตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกว่า ตนเองไม่ได้ไปทะเลาะวิวาทกับแท็กซี่ แต่ทำไมถึงถูกรุมทำร้ายแค่เรื่องรองเท้าที่ไปโดยรถแท็กซี่ หากโดนจริง ตนเองยินดีชดใช้ค่าเสียหาย ขอแค่พูดกันดีๆ แต่กลับถูกเข้ามารุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มแท็กซี่ดังกล่าวทำตัวเหมือนมาเฟีย ซ้ำเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ให้เพียงลงบันทึกประจำวัน จึงอยากออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพให้กับสาวประเภทสอง
ด้าน “กัน จอมพลัง” เผยว่าได้ประสานมายัง พล.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ วันนี้จะรีบดำเนินการทันที เพราะเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ แล้วจะเรียกตัวกลุ่มแท็กซี่มาภายในวันนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองมองว่าเป็นเรื่องของความคึกคะนองเมื่อเวลามีกลุ่มพวกจำนวนมาก อยากจะฝากไปถึงกลุ่มของผู้ก่อเหตุถึงแม้ว่าร่างกายของสาวประเภทสองจะเคยเป็นผู้ชายมาก่อน แต่จิตใจเป็นผู้หญิง อย่าคิดมาใช้กำลังตัดสินปัญหาควรจะหันหน้าพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นคดีความ. -สำนักข่าวไทย