สตช. 1 มี.ค. – “อัจฉริยะ” ปัดให้ข้อมูลนายพล จ. เกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ กับจเรตำรวจแห่งชาติเพราะไม่พอใจจเรตำรวจไม่ดำเนินการลงโทษ “สารวัตรซัว” กับลูกชายอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งมีหลักฐานชัดเป็นเจ้าของเว็บพนัน พร้อมยืนยันหากจะเอาข้อมูลนายพล จ. ต้องดำเนินการลงโทษทางวินัยกับสารวัตรซัว และพวกเสียก่อน
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ หลังจเรตำรวจแห่งชาติเชิญมาให้ข้อมูลคดีพนันออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่นายอัจฉริยะ นำรายชื่อ 16 ตำรวจไปร้องเรียน ผบ.ตร. ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยหนึ่งในนั้นมีนายพล จ. รวมอยู่ด้วย
นายอัจฉริยะ เปิดเผยก่อนเข้าพบจเรตำรวจแห่งชาติ ว่า ทางจเรตำรวจแห่งชาติเรียกเข้ามาพบเพื่อให้ข้อมูลกรณีนายพล จ. เพียงคนเดียว ซึ่งตนมองว่าไม่มีความจริงใจในการตรวจสอบเพราะกรณีสารวัตรซัว รวมถึงลูกชายอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการโอนเงินจากเว็บพนันออนไลน์ให้สารวัตรซัว ซึ่งตนได้ให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้ ที่สำคัญจเรตำรวจแห่งชาติก็ได้ตรวจสอบเรื่องนี้เสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ยังไม่มีการคำสั่งลงโทษทางวินัยให้ออกจากราชการแต่อย่างใด รวมถึงคดีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสที่พัวพันคดียาเสพติดก็เช่นกัน ทั้งที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นสรุปสั่งฟ้องในคดีอาญา ม.157 ไปแล้ว แต่ทางจเรตำรวจฯ ไม่ดำเนินการใด ๆ เลย ทำให้ตนรู้สึกขาดความเชื่อมั่นในการตรวจสอบของจเรตำรวจฯ และไม่เชื่อใจอีกต่อไป
ดังนั้นหากวันนี้จเรตำรวจ จะขอข้อมูลเกี่ยวกับนายพล จ. ตนจะไม่ให้ความร่วมมือโดยเด็ดขาด เนื่องจากมองว่าไม่เป็นธรรมต่อนายพล จ. หากจะดำเนินการกับนายพล จ. คนเดียว ทั้งที่เรื่องเก่ายังไม่สะสาง ดังนั้นจะขอข้อมูลใหม่ไปทำไม ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าประเด็นที่นายพล จ. ถูกเรียกสอบเป็นความขัดแย้งกันเองหรือไม่ ซึ่งตนไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวในความขัดแย้งดังกล่าว เพราะหากให้ข้อมูลไปและผลการสอบสวนออกมาว่านายพล จ.ไม่มีความผิด ตนในฐานะผู้ที่เอาข้อมูลมาให้ก็อาจถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้ นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังไม่เชื่อมั่นการสอบสวนคดีสารวัตรซัว ของตำรวจสอบสวนกลาง เพราะถ้าทำคดีนี้จริงจะส่งผลต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งระบบ เนื่องจากจะพบตำรวจที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม นายอัจฉริยะ ยังแฉทิ้งท้ายว่า เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว มีนายตำรวจระดับพลตำรวจเอกและพลตำรวจโท ทะเลาะกัน เนื่องจากไม่สามารถเคลียร์คดีพนันออนไลน์กันได้
ภายหลังจากที่นายอัจฉริยะ ขึ้นไปพบ “พล.ต.อ.วิสนุ” จเรตำรวจแห่งชาติ ประมาณ 20 นาที ปรากฏว่าจเรตำรวจแห่งชาติเดินทางออกจากสำนักงานจเรตำรวจโดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เนื่องจากอ้างว่ามีประชุมด่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่อมานายอัจฉริยะ ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า หลังจากตนเข้าพบจเรตำรวจแห่งชาติแล้วตนได้สอบถามถึงกรณีสารวัตรซัว ซึ่งทางจเรตำรวจแห่งชาติยอมรับว่ามีปัญหาพัวพันเว็บพนันออนไลน์จริง ซึ่งในสัปดาห์หน้าจเรตำรวจฯ จะยื่นสำนวนการตรวจสอบให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณา และจะแจ้งผลให้นายอัจฉริยะทราบภายหลัง ส่วนกรณีนายพล จ. ทางจเรตำรวจฯ เรียกมาให้ข้อมูลวันที่ 8 มีนาคมนี้ และตนได้ปฏิเสธให้ข้อมูลนายพล จ.ไปแล้วจนกว่าจะเห็นคำสั่งลงโทษทางวินัยสารวัตรซัวกับพวก. -สำนักข่าวไทย