“บิ๊กโจ๊ก” ร่วม “ปวีณา” แถลงจับแก๊งนำพาหญิงไทยหลอกค้าประเวณีที่เมียนมา

กรุงเทพฯ 24 ก.พ. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” และ “ปวีณา” แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งนำพาหญิงไทยไปหลอกค้าประเวณียังเมืองล๊อกกิ่ง เมียนมา


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการนำพาหญิงไทยไปหลอกค้าประเวณียังเมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 นางปวีณาพาหญิงสาว 3 ราย อายุ 27 ปี 28 ปี และ 29 ปี ตามลำดับ ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา แล้วได้รับความช่วยเหลือจนได้กลับมาประเทศไทย เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เพื่อขอให้ช่วยดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้


ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการให้ชุดปฏิบัติการดำเนินการสืบสวนขยายผลจนสามารถขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการนี้ได้จำนวน 8 ราย ได้แก่ 1.น.ส.ศิลาณี ทำหน้าที่ชักชวนผู้เสียหายไปทำงานที่เมียนมา และเป็นผู้ติดต่อประสานให้ผู้เสียหายเข้าเมียนมารได้ 2.น.ส.พิชญ์สินี ทำหน้าที่รับผู้เสียหายไปทำงานที่ร้านในประเทศเมียนมา 3.นายสมเกียรติ ทำหน้าที่พาผู้เสียหายไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ

4.นายชัชวีร์ ทำหน้าที่รับผู้เสียหายจากสนามบินเชียงใหม่ไปส่งที่ห้องพักในหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 5.นายจายหาร สัญชาติเมียนมา ทำหน้าที่รับผู้เสียหายจากหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปส่งที่จุดข้ามชายแดนไปยังประเทศเมียนมา ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 6.นายซ่า ทำหน้าที่พาผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา 7.นางโหย่ง ทำหน้าที่พาผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา และ 8.น.ส.อะเหลมะ ทำหน้าที่พาผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา

ทั้งหมดนี้จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันเป็นธุระจัดหาฯ ในการค้ามนุษย์ ตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้วจำนวน 6 ราย ส่วนอีก 2 ราย คือ น.ส.พิชญ์สินี และ น.ส.อะเหลมะ ยังคงหลบหนีการจับกุมอยู่ในประเทศเมียนมา


สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการค้ามนุษย์นี้จะทำทีชักชวนผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ให้ไปทำงานบริการนั่งดื่มกับลูกค้าที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา โดย น.ส.ศิลาณี เป็นผู้ชักชวน อ้างว่าใช้เวลาทำงานไม่นาน มีรายได้สูง เดือนละ 50,000 บาท และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

เมื่อตกลงกันได้แล้ว น.ส.ศิลาณี จะพาผู้เสียหายไปพักที่หอพักแห่งหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ก่อนที่นายสมเกียรติ ซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.ศิลาณี จะนำไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบินเชียงใหม่ โดยมีนายชัชวีร์ เป็นผู้รับผู้เสียหายจากสนามบินเชียงใหม่ไปส่งที่ห้องพักในหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยพักอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 1 คืน

รุ่งเช้าวันถัดมา นายจายหาร จะเดินทางมารับผู้เสียหายจากหมู่บ้านอรุโณทัย ไปส่งที่บริเวณชายแดนประเทศไทย-เมียนมา ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยมีนายซ่า นางโหย่ง และ น.ส.อะเหลมะ รอรับบริเวณริมชายแดน ก่อนเดินข้ามช่องทางธรรมชาติเข้าไปยังประเทศเมียนมา หลังจากนั้นจะมีกลุ่มชาวเมียนมาและอินเดียมารับช่วงต่อพาผู้เสียหาย ไปส่งที่ร้านคาราโอเกะในเมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนม ใช้เวลาเดินทางกว่า 6 วัน 5 คืน โดยมี น.ส.พิชญ์สินี เป็นผู้ดูแลร้านและคนที่มาทำงานที่ร้านดังกล่าว

ปรากฏว่าผู้เสียหายกลับถูกบังคับให้ค้าประเวณีแก่ลูกค้าในร้าน โดยระหว่างที่อยู่ในร้านจะมีกลุ่มชายติดอาวุธเฝ้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผู้เสียหายทราบภายหลังว่า น.ส.ศิลาณี จะได้ค่านายหน้าในการพาผู้เสียหายมาทำงานดังกล่าว เมื่อเป็นเช่นนั้นผู้เสียหายจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ตำรวจ และทหารไทย จนสามารถหลบหนีกลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย

สำหรับเมืองล๊อกกิ่ง ตั้งอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ห่างจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 400 กิโลเมตร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า คดีนี้เป็นผลความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจไทย ร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ ทำให้สามารถทลายขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวได้ โดยคืนนี้ตนจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมแถลงผลการดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะนำคดีนี้ไปแถลงเป็นผลงานด้วย คาดหวังว่าประเทศไทยจะได้รับการประเมินสถานการณ์ค้ามนุษย์ เลื่อนขั้นจาก Tier 2 ขึ้นสู่ Tier 1 ได้ในปีนี้ พร้อมทั้งฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อการชักชวนไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะบรรดาโฆษณาในโซเชียลมีเดียทั้งหลาย เพราะอาจจะเป็นการหลอกลวงค้ามนุษย์แบบกรณีดังกล่าว ขอให้เช็กกับทางกระทรวงแรงงานเสียก่อน และย้ำว่าตำรวจไทยดำเนินการอย่างเต็มที่ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

ด้านนางปวีณากล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ทำงานอย่างแข็งขันในการปราบปรามค้ามนุษย์ และให้การช่วยเหลือผู้เสียหายกลับคืนสู่ประเทศ พร้อมทั้งระบุอีกว่ายังพบรายงานชาวไทยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในหลายพื้นที่ประเทศเมียนมา ซึ่งบางพื้นที่เป็นพื้นที่สงครามและอยู่ภายใต้การครอบงำของกลุ่มติดอาวุธ จึงยากที่เจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ แต่ได้เตรียมข้อมูลประสานให้แก่ตำรวจ โดยหวังว่าชุดดำเนินการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะสามารถประสานกับทางเมียนมา เพื่อให้การช่วยเหลือได้ ขณะที่ตัวแทนผู้เสียหายกล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ให้การช่วยเหลือและเร่งรัดการดำเนินคดีจนสามารถจับได้เกือบทั้งขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]