“บิ๊กโจ๊ก” ร่วม “ปวีณา” แถลงจับแก๊งนำพาหญิงไทยหลอกค้าประเวณีที่เมียนมา

กรุงเทพฯ 24 ก.พ. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” และ “ปวีณา” แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งนำพาหญิงไทยไปหลอกค้าประเวณียังเมืองล๊อกกิ่ง เมียนมา


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการนำพาหญิงไทยไปหลอกค้าประเวณียังเมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 นางปวีณาพาหญิงสาว 3 ราย อายุ 27 ปี 28 ปี และ 29 ปี ตามลำดับ ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา แล้วได้รับความช่วยเหลือจนได้กลับมาประเทศไทย เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เพื่อขอให้ช่วยดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้


ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการให้ชุดปฏิบัติการดำเนินการสืบสวนขยายผลจนสามารถขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการนี้ได้จำนวน 8 ราย ได้แก่ 1.น.ส.ศิลาณี ทำหน้าที่ชักชวนผู้เสียหายไปทำงานที่เมียนมา และเป็นผู้ติดต่อประสานให้ผู้เสียหายเข้าเมียนมารได้ 2.น.ส.พิชญ์สินี ทำหน้าที่รับผู้เสียหายไปทำงานที่ร้านในประเทศเมียนมา 3.นายสมเกียรติ ทำหน้าที่พาผู้เสียหายไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ

4.นายชัชวีร์ ทำหน้าที่รับผู้เสียหายจากสนามบินเชียงใหม่ไปส่งที่ห้องพักในหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 5.นายจายหาร สัญชาติเมียนมา ทำหน้าที่รับผู้เสียหายจากหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปส่งที่จุดข้ามชายแดนไปยังประเทศเมียนมา ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 6.นายซ่า ทำหน้าที่พาผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา 7.นางโหย่ง ทำหน้าที่พาผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา และ 8.น.ส.อะเหลมะ ทำหน้าที่พาผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา

ทั้งหมดนี้จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันเป็นธุระจัดหาฯ ในการค้ามนุษย์ ตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้วจำนวน 6 ราย ส่วนอีก 2 ราย คือ น.ส.พิชญ์สินี และ น.ส.อะเหลมะ ยังคงหลบหนีการจับกุมอยู่ในประเทศเมียนมา


สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการค้ามนุษย์นี้จะทำทีชักชวนผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ให้ไปทำงานบริการนั่งดื่มกับลูกค้าที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา โดย น.ส.ศิลาณี เป็นผู้ชักชวน อ้างว่าใช้เวลาทำงานไม่นาน มีรายได้สูง เดือนละ 50,000 บาท และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

เมื่อตกลงกันได้แล้ว น.ส.ศิลาณี จะพาผู้เสียหายไปพักที่หอพักแห่งหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ก่อนที่นายสมเกียรติ ซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.ศิลาณี จะนำไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบินเชียงใหม่ โดยมีนายชัชวีร์ เป็นผู้รับผู้เสียหายจากสนามบินเชียงใหม่ไปส่งที่ห้องพักในหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยพักอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 1 คืน

รุ่งเช้าวันถัดมา นายจายหาร จะเดินทางมารับผู้เสียหายจากหมู่บ้านอรุโณทัย ไปส่งที่บริเวณชายแดนประเทศไทย-เมียนมา ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยมีนายซ่า นางโหย่ง และ น.ส.อะเหลมะ รอรับบริเวณริมชายแดน ก่อนเดินข้ามช่องทางธรรมชาติเข้าไปยังประเทศเมียนมา หลังจากนั้นจะมีกลุ่มชาวเมียนมาและอินเดียมารับช่วงต่อพาผู้เสียหาย ไปส่งที่ร้านคาราโอเกะในเมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนม ใช้เวลาเดินทางกว่า 6 วัน 5 คืน โดยมี น.ส.พิชญ์สินี เป็นผู้ดูแลร้านและคนที่มาทำงานที่ร้านดังกล่าว

ปรากฏว่าผู้เสียหายกลับถูกบังคับให้ค้าประเวณีแก่ลูกค้าในร้าน โดยระหว่างที่อยู่ในร้านจะมีกลุ่มชายติดอาวุธเฝ้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผู้เสียหายทราบภายหลังว่า น.ส.ศิลาณี จะได้ค่านายหน้าในการพาผู้เสียหายมาทำงานดังกล่าว เมื่อเป็นเช่นนั้นผู้เสียหายจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ตำรวจ และทหารไทย จนสามารถหลบหนีกลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย

สำหรับเมืองล๊อกกิ่ง ตั้งอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ห่างจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 400 กิโลเมตร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า คดีนี้เป็นผลความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจไทย ร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ ทำให้สามารถทลายขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวได้ โดยคืนนี้ตนจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมแถลงผลการดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะนำคดีนี้ไปแถลงเป็นผลงานด้วย คาดหวังว่าประเทศไทยจะได้รับการประเมินสถานการณ์ค้ามนุษย์ เลื่อนขั้นจาก Tier 2 ขึ้นสู่ Tier 1 ได้ในปีนี้ พร้อมทั้งฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อการชักชวนไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะบรรดาโฆษณาในโซเชียลมีเดียทั้งหลาย เพราะอาจจะเป็นการหลอกลวงค้ามนุษย์แบบกรณีดังกล่าว ขอให้เช็กกับทางกระทรวงแรงงานเสียก่อน และย้ำว่าตำรวจไทยดำเนินการอย่างเต็มที่ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

ด้านนางปวีณากล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ทำงานอย่างแข็งขันในการปราบปรามค้ามนุษย์ และให้การช่วยเหลือผู้เสียหายกลับคืนสู่ประเทศ พร้อมทั้งระบุอีกว่ายังพบรายงานชาวไทยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในหลายพื้นที่ประเทศเมียนมา ซึ่งบางพื้นที่เป็นพื้นที่สงครามและอยู่ภายใต้การครอบงำของกลุ่มติดอาวุธ จึงยากที่เจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ แต่ได้เตรียมข้อมูลประสานให้แก่ตำรวจ โดยหวังว่าชุดดำเนินการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะสามารถประสานกับทางเมียนมา เพื่อให้การช่วยเหลือได้ ขณะที่ตัวแทนผู้เสียหายกล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ให้การช่วยเหลือและเร่งรัดการดำเนินคดีจนสามารถจับได้เกือบทั้งขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]