“รัชฎา” ขึ้นศาลไต่สวนคดีฟ้อง “ผบก.ปปป.-ชัยวัฒน์” ศาลนัดฟังคำสั่ง 30 มี.ค.

กรุงเทพฯ 23 ก.พ.- “รัชฎา” อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ขึ้นศาลไต่สวนคดีที่ฟ้อง “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ-ชัยวัฒน์” ยืนยันไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์ ระบุปมขัดแย้งเกิดจากตั้งคณะกรรมการสอบ “ชัยวัฒน์” กรณีโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติเมื่อปี 2562 ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ 30 มี.ค.นี้


นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยหลังจากเข้าไต่สวนมูลฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีที่ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กับพวก รวม 7 คน ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ, ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา บุกรุก ซ่องโจร, พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โดยวันนี้ได้ให้การชี้แจงกับศาลตั้งแต่ก่อนถูกจับ ขณะถูกจับ และหลังถูกจับ ว่ารู้จักกับฝ่ายผู้ถูกร้องหรือไม่ ซึ่งนายรัชฎา บอกว่า รู้จักกับนายชัยวัฒน์มากว่า 10 ปี สมัยที่นายชัยวัฒน์ เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทำเรื่องเบิกจ่ายโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติกว่า 4,200 ไร่ เป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท เมื่อปี 2562 แล้วพบว่าไม่มีการดำเนินโครงการ จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการทางละเมิด ก่อนที่เรื่องจะเงียบหายไป จนกระทั่งเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็กำลังจะดำเนินการต่อ เนื่องจากคดีในชั้น ป.ป.ช.จะหมดอายุความในวันที่ 29 มีนาคมนี้ หากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นไปด้วย จึงคาดว่าเป็นสาเหตุให้นายชัยวัฒน์ ไม่พอใจจึงไปแจ้งความกับตำรวจ ปปป. ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทั่วประเทศ และตำรวจจึงเข้ามาตรวจค้นในห้องทำงานก่อนที่จะพบเงินสดจำนวนกว่า 98,000 บาท พร้อมกับรายชื่อข้าราชการที่อยู่บนซอง


นายรัชฎา ยังบอกว่า ในวันที่เกิดเหตุ เป็นวันที่ทางกระทรวงฯ มีงานอยู่ในช่วงเช้า ซึ่งก็มีข้าราชการในสังกัดเข้ามาพบหลายคน ส่วนใหญ่ก็นำซองใส่เงินมาให้ เพื่อเป็นเงินบริจาคนำไปใช้ในโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ ช่วยเหลืออาหารสัตว์ป่าของกลางที่ถูกยึดไว้ โดยให้เงินบริจาคผ่านอธิบดีเพื่อนำเงินเข้าโครงการ ส่วนสาเหตุที่ข้าราชการเหล่านั้นไม่โอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงนั้น นายรัชฎา ก็ระบุว่า เป็นเพราะข้าราชการต้องการให้อธิบดีทราบว่าร่วมบริจาคเงินเท่าใด แต่ด้วยวัตถุประสงค์อื่นหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้

ส่วนก่อนหน้านี้ก็มีหน่วยงานเอกชนและราชการหน่วยอื่นช่วยมาแล้วกว่า 6 ล้านบาท แต่ด้วยโครงการนี้ต้องใช้เงินกว่า 30 ล้านบาท จึงไม่เพียงพอ และก็มีการตัดงบประมาณจากโครงการอื่นมาช่วยเหลืออีกกว่า 20 ล้านบาท ส่วนเงินบริจาคในซองก็จะนำเข้าโครงการนี้ทั้งหมด

ส่วนการจัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ได้จัดสร้างไปแล้วกว่า 500 องค์ และได้มีคนได้เช่าไปแล้วกว่า 300 องค์ เหลืออีกกว่า 100 องค์ ทำให้ในวันดังกล่าวมีข้าราชการมาเช่าพระบรมรูป โดยผ่านทางอธิบดีเช่นกัน ซึ่งเงินนี้จะนำไปอยู่ในโครงการสวัสดิการของข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ


สำหรับเงินที่ตรวจยึดได้ในห้อง นายรัชฎา กล่าวว่า แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ เงินส่วนตัวที่เก็บไว้ในลิ้นชัก เงินที่ข้านำมาฝากเข้าโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ และเงินเช่าพระบรมรูป เพื่อเข้าโครงการสวัสดิการฯ ส่วนหน้าซองที่มีการเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับเงินว่าเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้างนั้น ขอให้เป็นสำนวนการสอบสวนของตำรวจในคดี ซึ่งให้การไปหมดแล้ว

ขณะที่คดีอาญาที่ถูกดำเนินคดี ยังอยู่ระหว่างรอสำนักงาน ป.ป.ช.ไปชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งไปรายงานตัวในเบื้องต้นไว้แล้ว และพร้อมที่จะต่อสู้คดี ยืนยันว่าไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการในกรมอุทยานแห่งชาติฯ หลังจากนี้จะพิจารณาเรียกร้องความเป็นธรรมจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีที่ถูกดำเนินคดีและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรม

ด้านนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความ บอกว่า ที่ผ่านมา นายรัชฎา อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน จึงไม่ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน และขอให้พิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม และอยากให้ดูคลิปวิดีโอในขณะที่นายชัยวัฒน์ เข้าไปพูดคุยในห้องทำงานของนายรัชฎา ก่อนที่จะถูกเข้าจับกุม โดยจะพบว่ามีการพูดคุยในลักษณะการขอไกล่เกลี่ยการจ่ายเงินกับอธิบดี ซึ่งทนายความก็ยืนยันว่า หลักฐานชิ้นนี้จะสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ ศาลนัดฟังคำสั่งในคดีว่าจะรับฟ้องหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ศาลทำหนังสือถึงกองบัญชาการสอบสวนกลาง ให้ส่งรายงานข้อเท็จจริงการเข้าจับกุมมาให้แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]