เขตห้วยขวางสั่งปิดพื้นที่อาคารทรุดย่านพระราม 9 เร่งแก้ไขใน 30 วัน

กรุงเทพฯ 13 ก.พ.- เขตห้วยขวาง ออกคำสั่งทางกฎหมายกรณีเกิดเหตุอาคารทรุดย่านพระราม 9 เพื่อความปลอดภัย โดยสั่งปิดกั้นห้ามใช้อาคาร และสั่งให้เจ้าของอาคารดำเนินการเพื่อบรรเทาเหตุที่อาจก่อให้เกิดอันตรายให้เสร็จใน 30 วัน ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ


เมื่อเวลา 23.46 น.วานนี้ (12 ก.พ.) นายไพฑูรย์ งามมุข ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง ปฏิบัติราชแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานท้องถิ่น ออกคำสั่งปิดประกาศและกั้นบริเวณดังกล่าวห้ามใช้ทันทีทุกอาคารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง โดยอาคารดังกล่าวตั้งอยู่ที่ถนนกำแพงเพชร 7 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10310 มีสภาพหรือมีการใช้ที่อาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน/อาจไม่ปลอดภัยจากอัคคีภัย/ก่อให้เกิดเหตุรำคาญ/กระทบกระเทือนต่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 46 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ประกอบกับข้อ 7 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522

สั่งให้เจ้าของอาคารดำเนินการเพื่อบรรเทาเหตุที่อาจก่อให้เกิดภยันตรายดังกล่าวตามรายการแนบท้ายคำสั่งนี้ ให้เสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เจ้าของอาคารได้รับคำสั่งนี้ หากพ้นกำหนดนี้แล้วจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยห้ามมิให้ใช้หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้อาคาร ดังนี้ บริเวณพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตก่อสร้าง (ตามแบบ ยผ.4 เลขที่ 90/2565 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2565) ที่ก่อให้เกิดภยันตราย ตามแนบท้ายคำสั่งนี้ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขเพื่อบรรเทาเหตุที่อาจก่อให้เกิดภยันตราย ตามรายการแนบท้ายคำสั่งนี้


อนึ่ง ผู้ได้รับคำสั่งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง โดยทำเป็นหนังสือและยื่นต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นผู้ออกคำสั่งนี้ ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามกฎหมาย โดยขณะนี้สั่งห้ามใช้อาคารตามคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ กท 4803/909 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 ฝ่าฝืนมีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับวันละ 30,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก