ศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องคคี “สันธนะ” หมิ่นประมาท “ชูวิทย์”

6 ก.พ. – ศาลอาญา นัดไต่สวนมูลฟ้องในคคี “ชูวิทย์” ยื่นฟ้อง “สันธนะ” ข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท “ชูวิทย์” ขอพึ่งความยุติธรรมจากทนายความและศาลพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ด้าน “สันธนะ” มาพร้อมเอกสาร 111 แผ่น ลั่นไม่มีหลักฐานไม่พูด พร้อมสู้คดี


เมื่อเวลาประมาณ 13.00 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อมด้วยนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เพื่อฟังการพิจารณาไต่สวนมูลฟ้อง กรณีที่บริษัท ต้นตระกูล จำกัด โดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นผู้รับมอบอำนาจ ยื่นฟ้องนายสันธนะ ประยูรรัตน์ ในข้อหาแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญาฯ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และละเมิด

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า วันนี้ศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องจากกรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ กล่าวหาว่ามีคลิปวิดิโอในห้องน้ำของโรงแรมเดวิด และกล่าวอ้างว่า มีคนเข้าไปมั่วสุมยาเสพติด อีกทั้งยังปรากฏว่า นายสันธนะ ได้ให้สัมภาษณ์และนำเสนอข่าวกล่าวหาว่าร้ายโรงแรมเดวิดของนายชูวิทย์ ว่าเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด ทำให้เกิดความเสียหายแก่โรงแรมของนายชูวิทย์อย่างมาก ทั้งที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบโรงแรมก็ไม่พบยาเสพติดและได้เรียกคนในคลิปมาตรวจปัสสาวะแล้วก็ไม่พบว่ามีสีม่วงแต่อย่างใด


วันนี้จึงเป็นการนัดไต่สวนมูลฟ้องก่อน ซึ่งมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอย่างครบถ้วนว่าจะเพียงพอทำให้ศาลประทับรับฟ้องได้ โดยคดีที่ฟ้องนั้นเป็นคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาพ่วงกับคดีละเมิด ซึ่งถือว่าเป็นคดีอาญาที่มีความเกี่ยวเนื่องกับคดีแพ่ง โดยถ้าหากศาลประทับรับฟ้องคดีอาญา ก็จะพ่วงมากับการเรียกร้องค่าเสียหายตามคดีแพ่งในมูลฐานละเมิดต่อไปตามกระบวนการ จึงยังตอบไม่ได้ว่าคิดมูลค่าความเสียหายเท่าไหร่ ต้องรอศาลไต่สวนประทับรับฟ้องอาญาเสียก่อน

ด้านนายชูวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ตนไม่มีอะไรจะกล่าวมาก ขออาศัยพึ่งพิงความยุติธรรมจากทนายความและศาล หวังว่าจะบังเกิดความยุติธรรมแก่ตนและจะช่วยสังคมพิสูจน์ว่า นายสันธนะเป็นใคร มีสถานะอะไรถึงมาร้องให้ตรวจสอบและกลั่นแกล้งคนอื่นได้ ตำรวจก็ไม่ใช่ ถ้าตนไม่ทำเช่นนี้ คนอื่นก็อาจจะถูกกลั่นแกล้งด้วยกระบวนการเช่นนี้อีก

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า วันนี้จะต้องเผชิญหน้ากับนายสันธนะ รู้สึกยังไง นายชูวิทย์ กล่าวว่า มือไม้มันสั่นไปหมด ขาก็สั่นด้วย ขนาดอยู่ในศาลแล้วนะ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ ก่อนจะเดินขึ้นศาลไป


ต่อมา ห่างกันเพียงไม่นาน นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล ได้เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา และเปิดเผยว่าคดีนี้ตัวเองจำเป็นต้องเข้ามาร่วมฟัง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยื่นพยานหลักฐานไปแล้วจำนวน 35 แผ่น ซึ่งตัวเองมองว่าไม่เพียงพอ จึงดำเนินการนำเอกสารมาเพิ่มเติมอีกจำนวน 111 แผ่น เพื่อจะประกอบการสืบพยานในครั้งนี้ นอกจากนนี้ยังมีภาพ คลิปหลักฐานที่ตัวเองนำมาเพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม เชื่อว่าจะสามารถใช้ในกระบวนการยุติธรรมได้ ซึ่งตัวเองมองว่ากลุ่มคนเหล่านี้ใช้สื่อในการโจมตีตัวเอง รวมถึงใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อดิสเครดิตบุคคลอื่น และวันนี้ตัวเองก็จะขออนุญาตศาลชี้แจงในเรื่องราวที่โดนกล่าวหาทั้งหมด รวมถึงอธิบายพยานหลักฐานที่ได้มาให้ชัดเจน รวมถึงที่ตนถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งวันนี้ตนก็จะพูดให้หมด พร้อมทั้งบอกว่าตนทำงานอาชีพตำรวจมา 22 ปี ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวอีกกว่า 20 ปี รู้ที่มาที่ไปของแหล่งข่าวของนายชูวิทย์ ที่จริงก็มาจากเจ้าหน้าที่รัฐทั้งสิ้น ส่วนที่นายชูวิทย์ แจ้งความตนทั้ง 2 คดีนั้น นายสันธนะ กล่าวว่า หากไม่มีพยานหลักฐานจะนำมาเสนอทำไม หากชูวิทย์มั่นใจก็ให้ตอบและอธิบายสิ่งที่ตนเสนอไปให้ได้

นายสันธนะ บอกด้วยว่า เมื่อกี้นี้เห็นว่านายชูวิทย์มาเจอมือสั่นเท้าสั่นตะคริวกินขา ก็เพราะมีตนนี้แหละเป็นคนตำหนิติเตือนไป เห็นมาวันนี้ก็มือเท้าสั่น อยากจะรู้ว่าลงมาจากศาลวันนี้จะสั่นอีกไหม ยืนยันว่าไม่กลัวใครทั้งนั้นนอกจากลูกปืน

นายสันธนะ ยังกล่าวอีกว่า ชูวิทย์ที่อยู่ได้ถึงทุกวันนี้เพราะมีลูกพี่ดี และยืนยันอีกครั้งว่าคดีนี้ตนไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ยิ่งเรื่องนายชูวิทย์ หากไม่ผิดตนจะไปกลั่นแกล้งทำไม ถึงแม้จะมีอคติในตัวก็ตามแต่ก็แยกแยะออกหมด

อย่างไรก็ตาม หลังจากนนี้นายสันธนะวางแผนว่าจะเข้าสู่เส้นทางการเมืองเพราะที่ผ่านมาตนเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่แก้ไขไม่ได้ จึงพร้อมจะลงไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคหนึ่งเป็นพรรคที่อยู่ในใจเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง เพื่อสามารถตั้งรัฐบาล เมื่อถึงวันนั้นตนจะขอเข้ามากำกับดูแลกระบวนการยุติธรรมจะเป็นในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกระทรวงยุติธรรมตัวเองมั่นใจในความสามารถและประสบการณ์ในการทำงานว่าจะสามารถช่วยเหลือได้. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]