สตช. 25 ม.ค.- ผบ.ตร.ย้ำชัดสวมเครื่องแบบรับจ๊อบนอกเวลาราชการไม่ได้ เชื่อไม่มีให้บริการผู้ก่อการร้าย สั่งโฆษก บช.ทุกหน่วยงดชี้แจง หวั่นทำข้อมูลสับสน ขอประชาชนหากมีข้อมูลส่งให้ตำรวจตรวจสอบ ทำมา 10 ปี ก็ตรวจสอบย้อนหลังได้
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีเพจดัง “ลุยจีน” ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ตำรวจไทยรับจ้างขับรถนำขบวนนักท่องเที่ยวจีนมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว เรื่องนี้สั่งการให้เร่งตรวจสอบ ถ้ามีข้อมูลอย่างที่มีการออกมาเปิดเผย หากมีหลักฐานชัดเจนจะลงโทษทั้งทางอาญาและทางวินัย แต่ตอนนี้ขอเวลาให้ชุดเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากภาพที่ปรากฏตามสื่อเป็นตำรวจท่องเที่ยวส่วนหนึ่ง และเป็นตำรวจจราจรส่วนหนึ่ง และอาจมีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิด เช่น ไกด์นำเที่ยว ซึ่งก็จะต้องไปสอบสวนให้ครบทุกด้าน ซึ่งตอนนี้สั่งการกำชับให้จเรตำรวจลงไปตรวจสอบในทุกประเด็นแล้ว และจากนี้จะไม่ให้โฆษกของแต่ละ บช.ออกมาชี้แจงแล้ว เพราะอาจทำให้คำตอบและข้อมูลมีความสับสนไม่ตรงกัน
ทั้งนี้ ผบ.ตร.ยืนยันว่า บริการพิเศษนี้ไม่มีบริการให้แก่กลุ่มผู้ก่อการร้าย เพราะจะต้องมีการตรวจสอบก่อนยู่แล้ว และไม่ได้เป็นไปตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีแนวทางไปแล้วว่า การจะนำขบวนใครก็ตามต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ซึ่งการนำขบวนในเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เป็นการกระทำโดยพลการ ซึ่งมีความผิดที่จะต้องลงโทษ ทั้งนี้ ต้องขอเวลาให้ตำรวจตรวจสอบก่อนว่ามีใครที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ จะกี่ปีย้อนหลังก็สามารถตรวจสอบได้ อยู่ที่หลักฐานเป็นหลัก ถ้าหากออกมาพูดปากเปล่า หรือพูดลอยๆ ก็คงตรวจสอบไม่ได้ แต่ถ้าหากผู้ใดมีข้อมูล ขอให้ส่งมาให้กับตำรวจชุดที่ตรวจสอบ ยืนยันว่าพร้อมที่จะดำเนินการต่อ
ผบ.ตร. ยังยืนยันหนักว่าตำรวจสวมเครื่องแบบไปรับจ้างนอกเวลา จะใช้รถส่วนตัวหรือรถหลวงก็ผิดทั้งนั้น เพราะเป็นการกระทำโดยพลการ และไม่ได้ทำตามคำสั่ง ไม่มีหน้าที่ การจะนำรถไปใช้กิจใดๆ ต้องมีเหตุและผล และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และก่อนหน้านั้นก็มีคำสั่งชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งนี้ พร้อมลงโทษอย่างหนักหากตรวจสอบพบว่าผิดจริง เพื่อให้เกิดความเกรงกลัว และไม่เป็นเยี่ยงอย่างต่อเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ
ส่วนจะเร่งประสานให้เว็บขายของออนไลน์ลบข้อมูลขายแพ็กเกจการจองท่องเที่ยวพร้อมรถนำขบวนหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่าหากประสานได้ก็จะประสาน ซึ่งเรื่องนี้จเรตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบทุกมิติ ทั้งข้อมูลฝ่ายที่เอาไปโพสต์และแชร์ และข้อมูลฝั่งตำรวจที่ให้ปากคำ ย้ำว่าข้อเท็จจริงทุกอย่างจะต้องทำให้ปรากฏชัดเจน พร้อมเปิดเผย แต่ขอเวลาตรวจสอบ เพื่อความรอบคอบและเห็นภาพรวมทั้งหมด ยิ่งมีข้อมูลว่าทำมานานแล้ว ก็ต้องไปตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องไปรื้อระเบียบเกี่ยวกับรถนำขบวน เพราะเป็นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่นอกลู่นอกทาง ไม่เกี่ยวกับระเบียบที่มี ส่วนจะเรียกสาวจีนที่โพสต์คลิปมาสอบถามเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า หากจเรตำรวจพิจารณาแล้วว่าจำเป็น ก็จะประสานให้เข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ แต่ตอนนี้ผู้โพสต์อาจไม่อยู่ในประเทศไทยเเล้ว
นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังย้ำชัดว่าไม่ได้รู้สึกหนักใจที่ตอนนี้มีแต่ข่าวเสียหายของตำรวจ แต่ถือเป็นการไปตรวจสอบ ถ้าตรงไหนที่ไม่ดีก็ต้องแก้ไข หลายเรื่องจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ จะด่วนสรุปเลยก็ไม่ได้ ขอให้ประชาชนใจเย็นเพราะตำรวจก็กำลังเร่งทำทุกคดีอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย