กรุงเทพฯ 23 ม.ค.- ตำรวจ ปปป.ส่งสำนวนคดีอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับสินบนให้ ป.ป.ช.แล้ว โดย ป.ป.ช.จะแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนให้เร็วที่สุด ด้าน “ชัยวัฒน์” เข้าให้การ ป.ป.ช.ปมพยานถูกข่มขู่ พร้อมทำหนังสือขอให้ ป.ป.ช.เร่งรัดส่งฟ้องคดีนี้ภายใน 30 วัน
ความเคลื่อนไหวในคดีอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับสินบนลูกน้อง เมื่อเวลา 11.45 น.วันนี้ ตำรวจ ปปป.เดินทางเข้ามาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อส่งสำนวนคดีนายรัชฎา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ต้องหาในคดีเรียกรับผลประโยชน์การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสังกัด ให้ ป.ป.ช. โดยมีเอกสารประกอบ 653 แผ่น ของกลาง 3 รายการ ทรัพย์สินและสิ่งที่ตรวจยึด 21 รายการ แฟลชไดรฟ์ 1 รายการ แผ่นซีดี 1 รายการ
ด้านนายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า วันนี้เป็นการส่งสำนวนคดีนายรัชฎา ซึ่งมาพร้อมของกลาง และยังไม่มีการให้ปากคำใดๆ ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับเรื่องไว้ดำเนินการต่อตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 แล้ว โดยนายรัชฎา เดินทางมาด้วย เพื่อยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นของ ป.ป.ช.ด้วยหลักทรัพย์ 400,000 บาท โดยหลังจากนี้ ป.ป.ช.จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะเรียกบุคคลที่มีชื่อบนซองสีน้ำตาลในห้องทำงานของนายรัชฎา มาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าหลักฐานของ ปปป.ที่ส่งมาครบถ้วนเพียงใด
ทีมข่าวสอบถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า ตำรวจส่งสำนวนแล้ว ตัวของนายรัชฎา จะต้องไป ป.ป.ช. เพื่อทำเรื่องประกันตัวต่อ ซึ่งหากไม่ไปก็จะออกหมายจับทันที ส่วนการสอบปากคำพยานในคดี มีการเรียกสอบทั้งหมด 36 ปาก ประกอบด้วย พยานกลุ่มที่มาของเงินล่อซื้อ 98,000 บาท 17 คน รวมนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร, พยานที่ได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินวิ่งเต้นโยกย้าย 5 คน และพยานที่มีรายชื่อบนซองเงินของกลาง 14 คน ในจำนวนนี้ยังไม่มา 1 คน ซึ่งให้การที่มาของเงินในซองไม่ตรงกัน ทั้งเงินทำบุญ เช่าพระ ช่วยเหลือสัตว์ป่า ทั้งนี้ โดยหลังจากส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. แล้ว จะเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ในการพิจารณาแนวทางดำเนินการว่าจะสอบสวนต่อเอง, ส่งให้ ป.ป.ท. ดำเนินการ, ส่งคืนพนักงานสอบสวน ปปป. หรือส่งให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดดำเนินการต่อ
ขณะที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ซึ่งเป็นผู้ร้องคดีนี้ เข้าให้ปากคำ กับ ป.ป.ช.เมื่อช่วงเช้า (9.00 น. ) ที่ผ่านมา และนายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า วันนี้มาเข้าให้การกับ ป.ป.ช.ในประเด็นที่พยานในคดีถูกข่มขู่คุกคามจากบริวารของผู้ถูกร้อง หลังจากที่เข้ามาให้การกับตำรวจ ปปป. ที่มีทั้งการโทรศัพท์ และส่งข้อความไลน์ในลักษณะที่ว่า ผู้ถูกร้องยังมีอำนาจอยู่ ยังอยู่ในตำแหน่งอธิบดี ให้คิดดีๆ ให้คิดถึงตำแหน่งตัวเองไว้ ถ้าจะยังเดินหน้าเป็นพยานในคดี นอกจากนี้ ยังมีการเรียกรับผลประโยชน์อยู่จากลิ่วล้อ แม้ว่าตัวจะย้ายไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังทำหนังสือขอให้ ป.ป.ช.เร่งรัดส่งฟ้องคดีนี้ภายใน 30 วัน เนื่องจากมองว่ามีพยานหลักฐานเชิงประจักษ์แล้ว
พร้อมพูดถึงกระบวนการตรวจสอบภายในของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่าการที่อธิบดียังอยู่ในตำแหน่ง ทำให้ยังคงมีบารมีอยู่ โดยนายชัยวัฒน์ เปรียบเทียบกับตนเอง ขณะที่ถูกสั่งย้ายก็ยังคงมีแต่คนเกรงใจ แต่พอมีคำสั่งให้พักราชการ ตนเองก็หมดภูมิ จึงอยากให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ ของกระทรวง เร่งดำเนินการสอบสวน และมีคำสั่งให้พักราชการหรือให้ออกราชการไว้ก่อน เพื่อความเป็นธรรมทางด้านคดี ส่วนพยานที่ถูกข่มขู่ นายชัยวัฒน์ บอกว่าตนได้พูดคุย ทุกคนยังคงพร้อมเดินหน้าเป็นพยานทางคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย