กรุงเทพฯ 23 ม.ค.- โฆษก ตร. เผยพบเพิ่มอีก 1 ดาบตำรวจท่องเที่ยวติดต่อบริษัททัวร์-จัดตำรวจอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่ลงเครื่องบิน จนถึงขับรถนำไปที่พัก พร้อมเตรียมเรียกคนติดต่อตำรวจรับงาน-นักท่องเที่ยวจีนให้ปากคำ ขณะที่ตรวจสอบไม่พบ “ดอน” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่มีนายตำรวจ 3 นาย คือ ตำรวจท่องเที่ยว 1 นาย และตำรวจจราจร 2 นาย อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนที่สนามบินสุวรรณภูมิ และขับรถนำไปที่พัทยา จ.ชลบุรี จากการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า มีตำรวจท่องเที่ยวเกี่ยวข้องเพิ่มอีก 1 นาย ยศดาบตำรวจ เป็นผู้ติดต่อประสานงานกับชายคนหนึ่งที่ทำทัวร์ในไทย และอ้างว่าไปรู้จักกันที่งานแห่งหนึ่งช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมาและมีการแลกเบอร์โทร ก่อนจะติดต่องานอำนวยความสะดวกพิเศษกับนักท่องเที่ยวมาให้ จากนั้นก็ติดต่อให้ ร.ต.อ. ตำแหน่งรองสารวัตร กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 เป็นคนเข้าไปรับที่สนามบิน และพามารับกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะพาเข้าช่องพิเศษของด่านตรวจคนเข้าเมือง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ประสานกับสิบตำรวจเอก 2 นาย สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร เป็นผู้ขับรถนำขบวนออกจากสนามบิน
ขณะนี้ทั้งสองหน่วยงานตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจจราจร 2 นาย ในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ เนื่องจากพบว่ารถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่นำไปใช้ เป็นรถส่วนตัว แต่ได้ตกแต่งติดไซเรน และเครื่องหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต และเตรียมเรียกชายคนที่ว่าจ้างและติดต่อตำรวจให้มารับงานนี้ และนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีเพิ่มเติม นอกจากนั้นยังพิจารณาตรวจสอบคำแปลภาษาไทยของภาษาจีนในคลิปว่าแปลถูกต้องหรือไม่ หรือมีส่วนใดไม่ตรงกับความเป็นจริง
นอกจากนี้ จเรตำรวจแห่งชาติ จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติมในรูปแบบคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อที่จะพิจารณาดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา
สำหรับค่าจ้างของตำรวจที่มารับงานพิเศษทั้งหมดนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าจะได้รับ 7,000 บาท ตามที่นักท่องเที่ยวอ้างไว้ในคลิปหรือไม่ ส่วนเงินจำนวน 200 บาทที่ยื่นให้นั้น เบื้องต้นตำรวจอ้างว่าเป็นเงินที่นักท่องเที่ยวให้ไว้จ่ายค่าทางด่วน ซึ่งเรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้สอบสวนทุกมิติว่าเรื่องนี้มีการทำเป็นขบวนการหรือไม่ รวมทั้งตำรวจกลุ่มนี้รับงานพิเศษแบบนี้มานานแล้วแค่ไหน ส่วนการที่แต่งเครื่องแบบตำรวจไปให้บริการจะเข้าข่ายผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนกรณีที่พบว่าหนึ่งในตำรวจจราจรขับรถนำขบวนนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้น จากการสอบสวนพบว่า เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายดอน เป็นการรับงานพิเศษส่วนตัวของตำรวจกลุ่มนี้ และที่มีการโพสต์เผยแพร่ว่ามีการปรับเพิ่มราคาค่าบริการอำนวยความสะดวกเที่ยวไทยขึ้นอีกหลังเป็นข่าวนั้น ขอยืนยันตำรวจไม่สามารถกระทำตามกล่าวอ้างได้ จะเร่งตรวจสอบการโพสต์ดังกล่าว
สำหรับการขออนุญาตใช้รถนำขบวน ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2544 ระบุไว้ชัดเจนว่าต้องขออนุญาตใช้โดยผ่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยแบ่งเป็นรถที่ใช้นำขบวนตามปกติ และใช้เป็นครั้งคราว ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตจากผู้บังคับการตำรวจจราจร ในเขตกรุงเทพมหานคร และผู้บังคับการตำรวจทางหลวงในต่างจังหวัด ซึ่งก็จะอนุมัติเป็นรายๆ ไป ส่วนผู้ที่จะขออนุญาตใช้รถนำได้จะต้องเป็นการเดินทางที่เป็นหมู่คณะ มีรถจำนวนหลายคัน ไม่สามารถให้บริการกับนักท่องเที่ยวส่วนบุคคลได้.-สำนักข่าวไทย