ปส.จับยาบ้ากว่า 14 ล้านเม็ด

กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – ตำรวจปราบปรามยาเสพติดรวบเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง รับจ้างขนยาเสพติดกว่า 14 ล้านเม็ด


พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรววจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 3 คดี โดยคดีแรกจับกุม นายมานพ (สงวนนามสกุล) ชาวจังหวัดตากบริเวณริมถนน หมายเลข 33 อ.นครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ 1 คัน รถบรรทุก 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มีพฤติกรรมร่วมกันกับพวกลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยลักษณะจะมีรถคุ้มกันลำเลียงของกลาง เพื่อสำรวจเส้นทางและด่านตรวจ กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาตำรวจพบรถเป้าหมายทั้ง 3 คน วิ่งเข้ามาในพื้นที่อยุธยา จึงนำกำลังเข้าสกัดและจับกุม

ส่วนคดีที่ 2 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมคนร้าย 3 ราย ประกอบด้วย นายชูวิทย์ นายจีรวัฒน์ และนายอภิเดช ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 6.4 ล้านเม็ด พร้อมรถยนต์ 3 คัน โดยจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคอีสานเข้ามายังจังหวัดสระบุรี โดยพบว่านายชูวิทย์ และพวกจะนำยาบ้ามาพักไว้ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และใช้เส้นทางรองที่เชื่อมต่อมายังสระบุรี จนกระทั่งตำรวจสามารถจับกุม โดยนายชูวิทย์ ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างนายเพ็ง กลุ่มชาติพันธุ์ม้งลาวว่าจ้างให้ลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน


คดีสุดท้ายตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมนายใจ อายุ 45 ปี ชาวเชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า 7 ล้านเม็ด พร้อมรถยนต์ 2 คัน บริเวณอำเภอเทิง จ.เชียงราย หลังสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือมาไว้ที่อำเภอเทิงและส่งต่อให้เครือข่ายลำเลียงเข้าพื้นที่ชั้นใน โดยใช้รถเก๋งและรถกระบะ ตำรวจที่เฝ้าติดตามจึงนำกำลังเข้าจับกุม

เบื้องต้น นายใจ อ้างว่ารู้จักกับนายอ้าย ชาวเวียงแก่น ว่าได้ค่าจ้าง 20,000 บาท เพื่อคอยดูต้นทางและจะมีชายไม่ทราบชื่อไปเปิดห้องพักไว้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง เพื่อรอกลุ่มที่ลักลอบเดินทางมาถึง และไปรับยาเสพติดด้วยกัน เพื่อส่งเข้าพื้นที่ชั้นในก่อนที่จะมาถูกจับ

พล.ต.อ.ชินภัทร ยอมรับกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมีความพยายามที่จะนำเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ทำการสกัดกั้นและทำลายเครือข่ายที่จะมีลักลอบนำสารตั้งต้นออกไป เพื่อผลิตยาเสพติด นอกจากนี้ จะต้องมีการติดตามตัวคนร้ายที่หลบหนีไปอยู่กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลได้มีการสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน เพื่อป้องกันปัญหาระยะยาว ส่วนยาบ้าที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้จะถูกส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เพื่อตรวจหาชนิดของสารเสพติดก่อนจะถูกส่งไปเก็บไว้ที่ ปปส.เพื่อรอเวลานำไปทำลายตามขั้นตอน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม