จ่อแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดขณะขับรถ” เสี่ยเบนท์ลีย์

กทม. 15 ม.ค.- จ่อแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดขณะขับรถ” กับเสี่ยเบนท์ลีย์ หลังสอบแพทย์ยืนยันผลตรวจ และรอคำสั่ง ผบช.น. ตั้งคณะพนักงานสอบสวน เพราะ สน.ทางด่วน 1 ไม่มีอำนาจสอบสวน ดำเนินคดียาเสพติด


ความคืบหน้าการดำเนินคดีเสี่ยเบนท์ลีย์ ขับรถเฉี่ยวชนบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย เมื่อช่วงดึกวันที่ 8 ม.ค.66 หลังผลการตรวจเลือดจาก รพ.ตำรวจ พบสารเสพติดในร่างกายของนายสุทัศน์ คนขับ โดยเป็นสารประเภท เมทแอมเฟตามีน เคตามีน,ไดอะซีแพม และนอร์ไออะซีแพม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแยกสารประกอบว่าเป็นยาเสพติดประเภทใด

ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทีมแพทย์ ที่ทำการตรวจเลือดนายสุทัศน์ แล้ว เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งแพทย์ยืนยัน พบสารเสพติดในร่างกายนายสุทัศน์ ส่วนจะเป็นสารเสพติดประเภทใด เป็นเรื่องในสำนวนคดี เปิดเผยไม่ได้ และ สน.ทางด่วน 1 ไม่มีอำนาจสอบสวน ดำเนินคดีในข้อหายาเสพติด ดังนั้น กองบังคับการตำรวจจราจร จึงเสนอเรื่องดังกล่าวไปที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้พิจารณาดำเนินการ ซึ่งมีรายงานว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อยู่ระหว่างพิจารณาตั้งคณะพนักงานสอบสวน ขึ้นมาเพื่อดำเนินการสอบสวนคดียาเสพติด จากนั้นจะพิจารณาเรียก นายสุทัศน์ คนขับรถ เบนท์ลีย์ มาแจ้งดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาเสพติดขณะขับรถ” ต่อไป


อย่างไรก็ตาม คดีนี้ มีรายงานว่าโรงพยาบาลตำรวจผู้ตรวจพิสูจน์เลือดวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของเสี่ยคนดังกล่าว ส่งรายการผลตรวจอย่างเป็นทางการมาให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ก้อนแพง รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 (ศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1) บก.จร. แล้ว ปรากฏว่านอกจากผลตรวจแอลกอฮอล์ไม่ถึง 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว แต่พบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในเลือด แต่มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการให้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า มีปริมาณเมทแอมเฟตามีนเท่าไหร่ เป็นสารเสพติดชนิดใด ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดขณะขับรถ และข้อหาเสพยาเสพติดเพิ่มเติมต่อไป

ทั้งนี้ จากเดิม ถูกแจ้งข้อหา 1. “ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่นและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส 2.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย 3.ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ)

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร  จินตกานนท์ รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณี ตามที่ได้เกิดเหตุรถเบนท์ลีย์ เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่นเป็นเหตุได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 00.38 น. ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้แถลงความคืบหน้า ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ไปแล้วนั้น  


จากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า ผลการตรวจเลือดของผู้ต้องหา มีสารเสพติด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจประกอบไว้เรียบร้อยแล้ว กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงขอประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการเพิ่มเติม โดยขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ได้แก่

  1. เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย
  2. เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
  3. ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน

กรณีข้อหา “เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกอำนาจการสอบสวนของงานควบคุมจราจรทางด่วน 1 นั้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร.เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย

สำหรับในเรื่องของความเร็วนั้น อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐาน หากพบว่าเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป กรณีการตรวจสอบรถยนต์เบื้องต้น พบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจของกองพิสูจน์หลักฐานเช่นเดียวกัน ว่ามีการปลอมแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งหรือไม่

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว และขอเรียนย้ำว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะดำเนินการเร่งรัดเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า