กรุงเทพฯ 12 ม.ค. – ตำรวจไซเบอร์จับกุมผู้ต้องหาหลอกเด็กอายุ 15 ปี ให้โอนเงินปั่นยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ครบแล้ว พบเส้นทางการเงินพัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ขณะที่ พ่อแม่-เพื่อน ร่วมอาลัยในงานเผาศพช่วงเย็นที่ผ่านมา
พลตำรวจตรีวิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เผยตำรวจไซเบอร์จับกุมผู้ต้องหาหลอกโอนเงิน ปั่นยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้แล้ว 4 คน จากหมายจับ 8 หมาย และยังจับกุมเจ้าของบัญชีอินสตาแกรมที่โพสต์ชักชวนทำงานหารายได้เสริม ซึ่งหลอกลวงนักเรียนผู้เสียหายตามหมายจับลำดับที่ 9 โดยจับกุมได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ และอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นอ้างว่า ได้รับการว่าจ้างให้โพสต์ชักชวนเหยื่อ และผู้ติดตาม 1.2 แสนคน แต่ตำรวจเชื่อว่ายังมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังเจ้าของบัญชีอินสตราแกรมคนนี้อยู่อีก จึงจะต้องขยายผลสืบสวนเพิ่มเติม
ล่าสุด พล.ต.ต.วิวัฒน์ สั่งการให้เชิญตัว นายรัชชานนท์ อายุ 38 ปี และนายชัยวัฒน์ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด มาสอบปากคำ หลังทั้งสองราย เชื่อมโยงเส้นเงินของกลุ่มคนร้ายที่ออกอุบายชักชวนให้เด็ก ม.3 ดูโฆษณาผ่าน YouTube เพื่อหารายได้พิเศษ ก่อนหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้า 10 ชิ้น วางขายออนไลน์เก็งกำไร โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
พล.ต.ต.วิวัฒน์ เผยว่า จากแนวทางการสืบสวนขณะนี้ตำรวจสามารถแกะรอยขบวนการดังกล่าวได้ทั้งหมด ออกหมายจับไป 8 ราย เป็นบัญชีม้าที่รับโอนเงินและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ติดตามจับกุมได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายเมื่อได้เงินมาก็นำเงินไปเทรดในสกุลเงินดิจิทัล ทางตำรวจได้แกะรอยจนพบความเชื่อมโยงของเงินไปที่ทั้งสองราย ซึ่งเป็นพ่อค้ารับแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิตอล ทั้งสองได้แสดงตัวขอให้ปากคำแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่เนื่องจากทั้งสองมีหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวพร้อมแจ้งข้อหา ก่อนนำตัวไปสอบปากคำ
อย่างไรก็ตามทั้งสองให้การรับว่ามีเงินเข้ามาผ่านบัญชีจริง แต่ในรายละเอียดนั้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำและขยายผล ทั้งนี้ขบวนการดังกล่าวได้ออกอุบายจากเหยื่อ จากนั้นเมื่อได้เงินจากเหยื่อก็จะนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัลเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ในกรณีนี้อยู่ระหว่างการขยายผลพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อที่จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วย
มีรายงานว่าชุดสืบสวน ได้จับกุมได้ผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 ราย ประกอบด้วย บัญชีม้า 6 ราย พ่อค้ารับแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล 2 ราย และเจ้าของบัญชีคนโพสต์ข้อความเชิญชวนผ่านอินสตาแกรม 1 ราย นอกจากนี้อยู่ระหว่างการขยายผลติดตามจับกุมคนกดเงินที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน 1 ราย วันพรุ่งนี้ (13 ม.ค.) จะแถลงข่าวข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลการจับกุมดังกล่าวต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่ามิจฉาชีพหลอกเด็กอายุ 15 ปี ให้ลงทุนจนทำให้ผูกคอเสียชีวิต เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าพัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ซึ่งได้แบ่งงานเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) ทั้งในส่วนของกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ และในส่วนของตำรวจภูธรภาค 1 ฝ่ายสืบสวน ตอนนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาแล้ว เป็นคนไทยที่ขายบัญชีตัวเอง เพื่อจะให้ขบวนการของคนจีนที่อยู่ในกัมพูชาใช้บัญชีในการโอนเงิน โดยเจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าจุดโอนเงินอยู่ที่ปอยเปต และทราบพิกัดของกลุ่มทุนจีนดังกล่าวแล้ว จึงโทรศัพท์ประสานกับ ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. ของกัมพูชาแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด รวมทั้งร้านรับแลกบิทคอยน์ จะต้องตรวจสอบทั้งหมดว่าเกี่ยวข้องหรือไม่
ส่วนที่ศาลา 2 วัดบางพูดใน ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ่อแม่ญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมกันทำพิธีฌาปนกิจศพนักเรียนอายุ 15 ปี ที่จบชีวิตตัวเองหลังจากโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกลงทุน โดยมีเพื่อนนักเรียนไปเคาะโรงศพ บอกลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะทำพิธีฌาปนกิจ ทาสมกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติพี่น้องและเพื่อนๆ
พ่อนักเรียนชั้น ม.3 กล่าวว่า เรื่องของคดีอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ทำงานให้ถึงที่สุด และอยากบอกลูกชายที่จากไปว่าขอให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี ส่วนแม่ พ่อจะดูแลเอง เกิดชาติหน้าหรือชาติไหนขอให้มาเกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่ และอย่าทำแบบนี้อีก .-สำนักข่าวไทย