ลำดับเหตุการณ์ อดีตรองนายก ย. คบหาภรรยาผู้อื่น

กรุงเทพฯ 12 ม.ค. – ทนายตั้มเปิดหลักฐานใหม่ ระบุว่า อดีตรองนายกฯ ย. เพิ่งไปจดทะเบียนหย่าก่อนเรื่องจะแดงขึ้นมาไม่กี่ชั่วโมง เพราะต้องการฟ้องเรียกเงินจากฝ่ายหญิงคืน ถ้าไม่หย่าจะเรียกค่าสินสอดไม่ได้ รวมทั้งไปย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด


นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พาลูกความ อายุ 35 ปี สามีของหญิงสาวที่ตกเป็นข่าวฉาวกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ย. เข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เพื่อแจ้งกลับในข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และให้การเท็จ กรณีอดีตนายก ย. แจ้งความว่าลูกความของตนเป็น 1 ในแก๊งฉ้อโกงตบทรัพย์

ทนายตั้ม ยืนยันว่า นี่คือเกมการดิ้นเฮือกสุดท้ายของอดีตรองนายก ย. หลังถูกจับได้ว่าไปยุ่งเกี่ยวกับภรรยาชาวบ้าน เพราะตนมีหลักฐานว่า อดีตรองนายก ย. ทราบดีว่า ฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้ว แต่เมื่อถูกจับได้ กลับรับไม่ได้ที่ถูกประจาน และใส่ความลูกความของตน


ไทม์ไลน์ของคดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงเดือน ต.ค.65 สามีสังเกตความเปลี่ยนไปของตัวภรรยา ทั้งเริ่มตั้งรหัสล็อกมือถือ พกมือถือติดตัวตลิดเวลาแม้แต่ตอนอาบน้ำก็ต้องพกติดตัวตลอด และความเฉยชาที่เริ่มมากขึ้น จนกระทั่งสามีแอบเข้ามือถือของภรรยา จนไปเห็นภาพลับ และข้อความต่างๆ ทำให้สามีของฟ้องหย่า และขู่จะฟ้องอดีตรองนายก ย. ด้วย จากนั้นฝ่ายหญิง พยายามขอคืนดีกับฝ่ายชายมาโดยตลอด แต่ฝ่ายชายยืนยันต้องการหย่า นี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหาที่เกิดขึ้น ถึงจุดนี้ฝ่ายหญิงเริ่มมีท่าทีกลับมาหาสามี ทำให้พฤติกรรมที่เคยมีกับอดีตรองนายก ย. เปลี่ยนไปเช่นกัน

  • 22 พ.ย. 65 อดีตรองนายก ย. หมดความอดทน ยื่นฟ้องฉ้อโกงกับฝ่ายหญิง พ่อแม่ฝ่ายหญิง รวมถึงตัวสามีด้วย ทั้ง 4 ถูกกล่าวหาว่า ทำงานเป็นขบวนการตบทรัพย์สินที่เป็นค่าสินสอดไปกว่า 19 ล้านบาท
  • 29 ธ.ค.65 ฝ่ายสามี ยื่นฟ้องหย่ากับภรรยา พร้อมฟ้องเรียกค่าเสียหายกับอดีตรองนายก ย. คนนี้ด้วย 7 ม.ค.66 ฝ่ายสามี เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ถูกชายฉกรรจ์ข่มขู่ให้ยุติการดำเนินคดี จึงนำเรื่องให้ทนายตั้มเพื่อเปิดเผยต่อสาธารณชน
  • 10 ม.ค.66 ทนายตั้ม นัดสื่อ เปิดคำใบ้ จนพอจะทราบว่า อดีตรองนายก ย. คือใคร

ข้อมูลล่าสุดจากทนายตั้ม ทราบว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ก่อนที่ทนายตั้มจะแถลงข่าวเปิดคำใบ้ 1 ชั่วโมง อดีตรองนายก ย. ได้ไปจดทะเบียนหย่ากับภรรยา ที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยในทางกฎหมายจะทำให้เจ้าตัวสามารถฟ้องร้องเรียกค่าสินสอดคืนได้นั่นเอง

คดีที่อดีตรองนายก ย. ฟ้องครอบครัวของหญิงสาวในข้อหาฉ้อโกงนั้น ขณะนี้เรื่องถึงอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชันแล้ว โดยสั่งฟ้อง 3 ผู้ต้องหา และออกหมายจับพ่อฝ่ายหญิงที่ยังไม่เดินทางรายงานตัว โดยจะครบกำหนดสั่งคดีวันที่ 15 ม.ค.นี้ เบื้องต้นพบว่า คำให้การของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้ง 1ในผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ซึ่งหากไม่ทัน 15 ม.ค.นี้ จะต้องขออนุญาตฟ้องจากอัยการสูงสุดตามกฎหมายก่อน


ส่วนคดีที่สามีฟ้องหย่าภรรยา และฟ้องเรียกค่าเสียหาย จากอดีตรองนายก ย. นั้น ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานเดือน มี.ค. นี้ หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่จะนำไปพิสูจน์ในชั้นศาล ว่าเหตุการณ์นี้เป็นการแบล็กเมล์ของฝ่ายหญิง หรือ อดีตรองนายก ย. เพลี่ยงพล้ำถลำลึกให้กับหญิงที่มีสามีแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”