ออกหมายจับบิดาฝ่ายหญิงสัมพันธ์อดีตรองนายกฯ

กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – อดีตรองนายกฯ ฟ้องกลับครอบครัวฝ่ายหญิงฉ้อโกง พร้อมทวงคืนสินสอดและทรัพย์สินคืน ล่าสุดศาลออกหมายจับบิดาฝ่ายหญิงแล้ว ด้านทนายตั้มเผย อดีตรองนายกฯ รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายหญิงมีสามี แต่พอไม่เป็นไปตามที่ตกลง กลับจะมาเรียกทรัพย์สินคืน เผยเตรียมฟ้องกลับเช่นกัน


กรณีที่ทนายตั้ม ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของอดีตรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง คบชู้กับภรรยาของลูกความตนเอง ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 อดีตรองนายกฯ ที่ตกเป็นข่าว ส่งทนายความไปยื่นฟ้องข้อหาฉ้อโกงกับ 4 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย หญิงสาวที่ตกเป็นข่าว สามีของหญิงสาว และบิดามารดาของหญิงสาว ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง เรียกสินสอดและทรัพย์ที่ไปสู่ขอคืน

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ได้นัดหมายให้ทนายความทั้ง 2 ฝ่าย และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน มาพบ เพื่อส่งพนักงานอัยการอาญาตลิ่งชัน 2 แต่ปรากฏว่า บิดาของฝ่ายหญิงไม่ให้ความร่วมมือการสอบสวน และไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงขออนุมัติศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับ และศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ลงวันที่ 5 มกราคม 2566 เบื้องต้นจึงส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้พนักงานอัยการอาญาตลิ่งชันพิจารณา


สำหรับไทม์ไลน์ของคดีนี้ ในเดือนตุลาคม 2565 ทนายตั้มบอกว่า ฝ่ายหญิงเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เริ่มตีตัวออกห่างจากสามี

  • 22 พฤศจิกายน 2565 อดีตรองนายกฯ ส่งทนายแจ้งความร่วมกันฉ้อโกงกับฝ่ายหญิง สามี และครอบครัว
  • 27 ธันวาคม 2565 สามีเข้าหารือทนายตั้ม ขอฟ้องหย่า หลังพบภาพโป๊และข้อความทางโทรศัพท์ ระหว่างภรรยากับอดีตรองนายกฯ
  • 10 ธันวาคม 2565 แถลงสื่อมวลชน จนทราบว่าใคร คือ อดีต รองนายกฯ ย.

จากไทม์ไลน์ จะเห็นว่า อดีตรองนายกฯ ไม่พอใจฝ่ายหญิงก่อนที่จะถูกแฉแล้ว จึงส่งทนายไปแจ้งความถูกฉ้อโกง กรณีขอสินสอดคืน แต่บ้านของฝ่ายหญิงไม่ยอมคืนเงินให้ ทำให้อดีตรองนายกฯ ไม่พอใจ และต้องการยุติความสัมพันธ์ก่อนแล้ว

ด้านนายษิทา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยทิศทางการต่อสู้คดี ว่าหากฝ่ายอดีตรองนายกฯ ให้การกับศาลว่าถูกแบล็กเมล์หรือถูกหลอกให้รัก ก็สามารถทำได้ แต่ศาลจะรับฟังหรือไม่เป็นอีกเรื่อง เนื่องจากพฤติกรรมเห็นชัดว่ามีการให้เงินให้ฝ่ายหญิงโดยเสน่หา ไม่ใช่การฉ้อโกง ทั้งนี้จากข้อมูลอดีตรองนายกฯ รู้ดีว่าผู้หญิงมีสามีอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ถูกฝ่ายสามีจับได้ท่าทีก็เปลี่ยนไป ต้องการเลิกกับผู้หญิง ก่อนทวงทรัพย์สินคืนจนเป็นคดีความกัน


คดีนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน และตัวอดีตรองนายกฯ ต้องยอมรับว่าเข้ามายุ่งกับฝ่ายหญิงที่มีครอบครัวอยู่แล้วก่อน แต่พอสามีเขาจับได้ ก็จะมาทวงทรัพย์สินคืน ส่วนเรื่องการถูกแบล็กเมล์ นายษิทา มองว่า ไม่น่าใช่ เพราะตนมีหลักฐานการส่งภาพลับไปมาระหว่างกัน ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องรสนิยมทางเพศมากกว่า ขณะที่ปัจจุบันทางฝ่ายหญิงกับลูกความของตัวเอง ตอนนี้แยกกันอยู่แล้ว เหลือรอจัดการเรื่องฟ้องหย่า ซึ่งในส่วนของการฟ้องร้องตัวเองมองว่าหลักฐานที่มีอยู่ทั้งภาพถ่าย คลิปวิดีโอ ข้อความการสนทนาทางแชท เพียงพอต่อการฟ้องร้องดำเนินคดีเช่นกัน และเตรียมฟ้องกลับอดีตรองนายกฯ เรื่องแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้ได้รับโทษทางอาญาด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]