กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – กองบังคับการตำรวจจราจร สั่งพนักงานสอบสวน ทางด่วน 1 ชี้แจงขั้นตอนการทำคดีเบนท์ลีย์ หากพบความบกพร่องจะพิจารณาลงโทษตามระเบียบ
ภายหลังมีกระแสข่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีหนังสือคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การทำคดีของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรถยนต์หรู เบนท์ลีย์ พุ่งชนรถผู้อื่นบนทางด่วน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และมีคลิปปรากฏในสื่อสาธารณะ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายเกี่ยวกับขั้นตอนในการทำงานของทางตำรวจ เพราะทำคดีล่าช้า ส่งผลกระทบต่อองค์กร
พันตำรวจเอก ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 ศูนย์ควบคุมจราจร ทางด่วน/ทางพิเศษ กองบังคับการตำรวจจราจร ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่ยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว แต่เป็นเพียงการตรวจสอบตามขั้นตอนปกติ หลังสื่อมวลชนตั้งข้อสงสัย ดังนั้นเพื่อให้ความกระจ่าง จึงให้พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนชี้แจงขั้นตอนการทำงานในคดีดังกล่าวเท่านั้น ว่ามีกระบวนการทำงานอย่างไร เป็นไปตามขั้นตอนปกติ หรือมีขั้นตอนใดผิดไปจากมาตรฐานหรือไม่ หากพบว่ามีความบกพร่องก็จะมีการพิจารณาลงโทษไปตามระเบียบ แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการลงโทษใดๆ ทั้งสิ้น
พร้อมยอมรับว่า ตำรวจจราจรเป็นกลุ่มที่อยู่ตรงกลางความเปราะบาง ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งการทำงานของทางตำรวจจราจรจะมุ่งเน้นในการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อให้ได้ทางออกของปัญหาที่ดีที่สุดกับทั้งสองฝ่าย และคดีไม่มีความจำเป็นเข้าสู้ชั้นศาล แต่อาจไม่ตรงใจใครบางคน การดำเนินการที่ผ่านมา ตำรวจจราจรได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอนตามมาตรฐาน ที่ต้องใช้ในการตรวจพิสูจน์ความผิด การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ถือเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้ และแม่นยำที่สุด และดีกว่าทุกวิธี
ส่วนเรื่องของผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์จนถึงขณะนี้ (15.00 น.) รองผู้กำกับการสอบสวน ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลคดีดังกล่าว บอกว่า ยังอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจจากแล็บตรวจสอบของโรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด จะสามารถออกมาได้ในช่วงเวลากี่โมง แต่หากได้รับผลการตรวจสอบมาแล้ว จะนำไปพิจารณาต่อไปว่า เข้าข่ายกระทำผิดเกี่ยวกับการเมาสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย