fbpx

สั่งพนักงานสอบสวนคดีเบนท์ลีย์ทำหนังสือชี้แจง

กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – กองบังคับการตำรวจจราจร สั่งพนักงานสอบสวน ทางด่วน 1 ชี้แจงขั้นตอนการทำคดีเบนท์ลีย์ หากพบความบกพร่องจะพิจารณาลงโทษตามระเบียบ


ภายหลังมีกระแสข่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีหนังสือคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การทำคดีของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรถยนต์หรู เบนท์ลีย์ พุ่งชนรถผู้อื่นบนทางด่วน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และมีคลิปปรากฏในสื่อสาธารณะ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายเกี่ยวกับขั้นตอนในการทำงานของทางตำรวจ เพราะทำคดีล่าช้า ส่งผลกระทบต่อองค์กร

พันตำรวจเอก ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 ศูนย์ควบคุมจราจร ทางด่วน/ทางพิเศษ กองบังคับการตำรวจจราจร ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่ยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว แต่เป็นเพียงการตรวจสอบตามขั้นตอนปกติ หลังสื่อมวลชนตั้งข้อสงสัย ดังนั้นเพื่อให้ความกระจ่าง จึงให้พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนชี้แจงขั้นตอนการทำงานในคดีดังกล่าวเท่านั้น ว่ามีกระบวนการทำงานอย่างไร เป็นไปตามขั้นตอนปกติ หรือมีขั้นตอนใดผิดไปจากมาตรฐานหรือไม่ หากพบว่ามีความบกพร่องก็จะมีการพิจารณาลงโทษไปตามระเบียบ แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการลงโทษใดๆ ทั้งสิ้น


พร้อมยอมรับว่า ตำรวจจราจรเป็นกลุ่มที่อยู่ตรงกลางความเปราะบาง ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งการทำงานของทางตำรวจจราจรจะมุ่งเน้นในการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อให้ได้ทางออกของปัญหาที่ดีที่สุดกับทั้งสองฝ่าย และคดีไม่มีความจำเป็นเข้าสู้ชั้นศาล แต่อาจไม่ตรงใจใครบางคน การดำเนินการที่ผ่านมา ตำรวจจราจรได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอนตามมาตรฐาน ที่ต้องใช้ในการตรวจพิสูจน์ความผิด การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ถือเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้ และแม่นยำที่สุด และดีกว่าทุกวิธี

ส่วนเรื่องของผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์จนถึงขณะนี้ (15.00 น.) รองผู้กำกับการสอบสวน ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลคดีดังกล่าว บอกว่า ยังอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจจากแล็บตรวจสอบของโรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด จะสามารถออกมาได้ในช่วงเวลากี่โมง แต่หากได้รับผลการตรวจสอบมาแล้ว จะนำไปพิจารณาต่อไปว่า เข้าข่ายกระทำผิดเกี่ยวกับการเมาสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด