“ชูวิทย์” เข้าให้ข้อมูลจเรตำรวจ เผยจ่อบุกถามนายกฯ มีญาติเกี่ยวข้อง บ.รถเช่า หรือไม่

กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จเรตำรวจ อ้างคณะกรรมการที่ตรวจสอบโดยตำรวจด้วยกันไม่เป็นประโยชน์ พร้อมเตรียมบุกถามนายกรัฐมนตรีที่เตรียมเปิดตัวร่วมพรรคการเมืองว่าหลานของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับบริษัทรถเช่าหรือไม่


พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ที่ประกอบไปด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เชิญนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาให้ข้อมูลกรณีที่ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับทุนเครือข่ายธุรกิจจีนสีเทา และคดีสถานบันเทิงจินหลิง ที่มีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว เป็นเจ้าของ

นายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีจเรตำรวจ ซึ่งเป็นตำรวจด้วยกันคงไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นเห็นว่า ควรให้ตัวเองเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะมีความเป็นกลางมากกว่า ซึ่งการมาให้ข้อมูลในวันนี้ส่วนตัวมองว่า ไม่ได้ประโยชน์และเป็นการแสดงละครเท่านั้น ขณะที่ส่วนตัวยืนยันว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตัดต่อทำลายพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด การทำงานสืบสวนสอบสวนคดีล่าช้าของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รวมไปถึงการแจ้งความดำเนินคดีฐานฟอกเงินกับนายตู้ห่าว


นายชูวิทย์ ยังตั้งคำถามให้ผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่านายตำรวจยศ “พ.ต.ท.” ที่ชื่อ คมไพร และบุคคลที่ชื่อ รองหมา เป็นลูกน้องของใคร และมีนายตำรวจคนใด ดูแลอยู่ตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นผู้น้อย พร้อมยังยืนยันว่าไม่มีนายตำรวจคอยให้ข้อมูล แม้ว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายตำรวจคนหนึ่ง

นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่าช่วงเย็นวันนี้ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะไปสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดการไปเปิดตัวร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า หลานของ พล.อ.ประยุทธ์ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เนื่องจากพบว่า หลานของ พล.อ.ประยุทธ์​ มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัทที่เกี่ยวกับการใช้เช่ายานยนต์ และยังตั้งคำถามเพื่อให้นายกรัฐมนตรีตอบว่าเครือญาติของนายกรัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายธุรกิจของนายตู้ห่าวหรือไม่

สำหรับกรณีนี้ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้จเรตำรวจ ตรวจสอบประเด็นที่นายชูวิทย์ นำข้อมูลหลักฐานคดีของนายตู้ห่าว ออกมาเผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการพาดพิงว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือในการออกหนังสือเดินทางผิดประเภทให้กับผู้ต้องหาคนจีน บางส่วนในคดีนี้ รวมถึงคณะกรรมการชุดนี้ที่มี พล.ต.ท.จิรภพ ยังมีอำนาจในการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาเผยแพร่โดยอ้างว่ามีการลักลอบเล่นพนันในบริเวณจินหลิง


ด้าน พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยว่า ข้อมูลที่นายชูวิทย์ให้มาถือว่าเป็นประโยชน์และจะทำให้คณะทำงานดังกล่าวสามารถทำงานตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งข้อมูลที่ให้มามีจำนวนมากจึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบสักระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่าจะทันตามกำหนดที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ให้การตรวจสอบเสร็จสิ้นภายใน 15 วัน หลังจากนี้จะมีการวางกรอบให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวเข้ามาให้ข้อมูล โดยหนึ่งในนั้นคือผู้บัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งจะต้องเข้ามาให้ข้อมูลว่าคดีดังกล่าวได้ทำการสืบสวนสอบสวนทำสำนวนไปถึงไหนอย่างไรบ้าง ล่าช้าหรือมีอะไรผิดปกติเกินกว่าในระเบียบปฏิบัติหรือไม่ รวมถึงจะต้องให้คณะทำงานในคดีดังกล่าวเข้ามาให้ข้อมูลทั้งหมดแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีตำรวจที่ต้องเข้ามาให้ข้อมูลจำนวนเท่าใด โดยจะเริ่มทยอยเรียกให้เข้ามาพบภายในต้นสัปดาห์หน้า ส่วนบุคคลอื่นๆ ทั้งพยาน หรือผู้เกี่ยวข้องบางคนจะมีใครต้องเข้ามาให้ปากคำก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะที่ประชุม

ครั้งนี้ยืนยันว่าคณะทำงานดังกล่าวจะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนายไม่ละเว้น แม้ว่านายชูวิทย์ จะปรามาสว่าเสือย่อมไม่กินเสือด้วยกัน แต่หากกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการทุกนาย

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ หนึ่งในคณะทำงานตรวจสอบการทำงานของตำรวจในคดีดังกล่าวและตรวจสอบเรื่องการเปิดให้มีบ่อนการพนันในผับจินหลิงและลีลา เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานที่นายชูวิทย์มอบให้และมีการเปิดเผยในโลกโซเชียลอยู่ พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นได้ชัดว่าคือบ่อนการพนันแต่สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้ได้ว่าบ่อนการพนันดังกล่าวจัดตั้งอยู่ที่ใดและภาพในกล้องวงจรปิดเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยังอยู่ในอายุความของการดำเนินคดีเกี่ยวกับบ่อนการพนันหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายคดีดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะเกินอายุความและหากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจะมีการเปิดคดีใหม่และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหาทุกคนที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าการตรวจสอบจะดำเนินการเสร็จพร้อมกันกับคณะทำงานของจเรตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.เจนกมล คำนวน หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยศนายพล 3 นาย เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยให้เกิดการทำเอกสารหลักฐานปลอมเพื่อแปลงสัญชาติให้กับชาวจีนในเครือข่ายของนายตู้ห่าว เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณากรณีที่ได้รับการร้องเรียนมาทั้งหมด 700 เรื่อง มีเอกสารที่ต้องตรวจสอบมากกว่า 100,000 แผ่น จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบมาจนถึงขณะนี้พบว่านอกเหนือจากตำรวจชั้นนายพล 3 นาย ยังมีตำรวจนายอื่นๆ ที่อาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกจำนวนมาก ซึ่งตัวเลขใกล้เคียงกับที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ประมาณ 20 กว่านาย และเมื่อทราบข้อเท็จจริงแล้วจะส่งผลการตรวจสอบดังกล่าวให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย