“ชูวิทย์” เข้าให้ข้อมูลจเรตำรวจ เผยจ่อบุกถามนายกฯ มีญาติเกี่ยวข้อง บ.รถเช่า หรือไม่

กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จเรตำรวจ อ้างคณะกรรมการที่ตรวจสอบโดยตำรวจด้วยกันไม่เป็นประโยชน์ พร้อมเตรียมบุกถามนายกรัฐมนตรีที่เตรียมเปิดตัวร่วมพรรคการเมืองว่าหลานของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับบริษัทรถเช่าหรือไม่


พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ที่ประกอบไปด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เชิญนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาให้ข้อมูลกรณีที่ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับทุนเครือข่ายธุรกิจจีนสีเทา และคดีสถานบันเทิงจินหลิง ที่มีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว เป็นเจ้าของ

นายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีจเรตำรวจ ซึ่งเป็นตำรวจด้วยกันคงไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นเห็นว่า ควรให้ตัวเองเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะมีความเป็นกลางมากกว่า ซึ่งการมาให้ข้อมูลในวันนี้ส่วนตัวมองว่า ไม่ได้ประโยชน์และเป็นการแสดงละครเท่านั้น ขณะที่ส่วนตัวยืนยันว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตัดต่อทำลายพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด การทำงานสืบสวนสอบสวนคดีล่าช้าของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รวมไปถึงการแจ้งความดำเนินคดีฐานฟอกเงินกับนายตู้ห่าว


นายชูวิทย์ ยังตั้งคำถามให้ผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่านายตำรวจยศ “พ.ต.ท.” ที่ชื่อ คมไพร และบุคคลที่ชื่อ รองหมา เป็นลูกน้องของใคร และมีนายตำรวจคนใด ดูแลอยู่ตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นผู้น้อย พร้อมยังยืนยันว่าไม่มีนายตำรวจคอยให้ข้อมูล แม้ว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายตำรวจคนหนึ่ง

นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่าช่วงเย็นวันนี้ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะไปสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดการไปเปิดตัวร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า หลานของ พล.อ.ประยุทธ์ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เนื่องจากพบว่า หลานของ พล.อ.ประยุทธ์​ มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัทที่เกี่ยวกับการใช้เช่ายานยนต์ และยังตั้งคำถามเพื่อให้นายกรัฐมนตรีตอบว่าเครือญาติของนายกรัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายธุรกิจของนายตู้ห่าวหรือไม่

สำหรับกรณีนี้ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้จเรตำรวจ ตรวจสอบประเด็นที่นายชูวิทย์ นำข้อมูลหลักฐานคดีของนายตู้ห่าว ออกมาเผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการพาดพิงว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือในการออกหนังสือเดินทางผิดประเภทให้กับผู้ต้องหาคนจีน บางส่วนในคดีนี้ รวมถึงคณะกรรมการชุดนี้ที่มี พล.ต.ท.จิรภพ ยังมีอำนาจในการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาเผยแพร่โดยอ้างว่ามีการลักลอบเล่นพนันในบริเวณจินหลิง


ด้าน พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยว่า ข้อมูลที่นายชูวิทย์ให้มาถือว่าเป็นประโยชน์และจะทำให้คณะทำงานดังกล่าวสามารถทำงานตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งข้อมูลที่ให้มามีจำนวนมากจึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบสักระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่าจะทันตามกำหนดที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ให้การตรวจสอบเสร็จสิ้นภายใน 15 วัน หลังจากนี้จะมีการวางกรอบให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวเข้ามาให้ข้อมูล โดยหนึ่งในนั้นคือผู้บัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งจะต้องเข้ามาให้ข้อมูลว่าคดีดังกล่าวได้ทำการสืบสวนสอบสวนทำสำนวนไปถึงไหนอย่างไรบ้าง ล่าช้าหรือมีอะไรผิดปกติเกินกว่าในระเบียบปฏิบัติหรือไม่ รวมถึงจะต้องให้คณะทำงานในคดีดังกล่าวเข้ามาให้ข้อมูลทั้งหมดแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีตำรวจที่ต้องเข้ามาให้ข้อมูลจำนวนเท่าใด โดยจะเริ่มทยอยเรียกให้เข้ามาพบภายในต้นสัปดาห์หน้า ส่วนบุคคลอื่นๆ ทั้งพยาน หรือผู้เกี่ยวข้องบางคนจะมีใครต้องเข้ามาให้ปากคำก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะที่ประชุม

ครั้งนี้ยืนยันว่าคณะทำงานดังกล่าวจะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนายไม่ละเว้น แม้ว่านายชูวิทย์ จะปรามาสว่าเสือย่อมไม่กินเสือด้วยกัน แต่หากกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการทุกนาย

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ หนึ่งในคณะทำงานตรวจสอบการทำงานของตำรวจในคดีดังกล่าวและตรวจสอบเรื่องการเปิดให้มีบ่อนการพนันในผับจินหลิงและลีลา เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานที่นายชูวิทย์มอบให้และมีการเปิดเผยในโลกโซเชียลอยู่ พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นได้ชัดว่าคือบ่อนการพนันแต่สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้ได้ว่าบ่อนการพนันดังกล่าวจัดตั้งอยู่ที่ใดและภาพในกล้องวงจรปิดเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยังอยู่ในอายุความของการดำเนินคดีเกี่ยวกับบ่อนการพนันหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายคดีดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะเกินอายุความและหากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจะมีการเปิดคดีใหม่และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหาทุกคนที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าการตรวจสอบจะดำเนินการเสร็จพร้อมกันกับคณะทำงานของจเรตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.เจนกมล คำนวน หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยศนายพล 3 นาย เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยให้เกิดการทำเอกสารหลักฐานปลอมเพื่อแปลงสัญชาติให้กับชาวจีนในเครือข่ายของนายตู้ห่าว เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณากรณีที่ได้รับการร้องเรียนมาทั้งหมด 700 เรื่อง มีเอกสารที่ต้องตรวจสอบมากกว่า 100,000 แผ่น จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบมาจนถึงขณะนี้พบว่านอกเหนือจากตำรวจชั้นนายพล 3 นาย ยังมีตำรวจนายอื่นๆ ที่อาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกจำนวนมาก ซึ่งตัวเลขใกล้เคียงกับที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ประมาณ 20 กว่านาย และเมื่อทราบข้อเท็จจริงแล้วจะส่งผลการตรวจสอบดังกล่าวให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย