สตม.ยืนยันไม่ได้เงินค่าบริการวีซ่าท่องเที่ยวแม้แต่บาทเดียว

สตช. 28 ธ.ค. – “พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์” ผบช.สตม. แถลงยืนยันไม่มีการนำเงินค่าบริการวีซ่าท่องเที่ยว 15 วัน เข้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามที่มีการวิจารณ์ ระบุแบ่งเข้ารัฐและเป็นค่าธรรมเนียมของเอกชนที่รับจัดทำวีซ่า ซึ่งเป็นไปตาม MOU ที่จัดทำขึ้น


พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับวีซ่าท่องเที่ยว 15 วัน หรือ E-Visa on Arrival ว่ามีการเสียค่าใช้จ่าย 500-2,500 บาท ว่าไปตกอยู่ที่ใคร โดยผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองชี้แจงว่าการเสียค่าบริการดังกล่าวเป็นทางเลือกของผู้ใช้บริการที่ไม่ต้องการเสียเวลาต่อแถวตรวจวีซ่าที่ด่านตรวจสนามบิน แบ่งเป็น 2,000 บาทเข้ารัฐ และ 500 บาท เป็นค่าธรรมเนียมของบริษัทเอกชนที่รับจัดทำวีซ่า ซึ่งเป็นไปตาม MOU ที่รัฐกับบริษัทดังกล่าวจัดทำขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่นำไปพัฒนาระบบของบริษัท และไม่มีการนำเงินเข้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแม้แต่บาทเดียว

นอกจากนี้การที่มีวีซ่า E-VOA ก็จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นเรื่องดี เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่มีสถานการณ์โควิด บริษัทเอกชนที่รับทำ E-VOA ขาดรายได้จนแทบจะปิดกิจการ ดังนั้นเมื่อเปิดประเทศและมีนักท่องเที่ยวเข้ามา บริษัทเหล่านี้ก็จำเป็นต้องหารายได้เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่าย การที่มีบุคคลออกมาหลับหูหลับตาวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นนี้มากๆ อาจจะทำให้บริษัทเหล่านี้ไม่อยากมาลงทุนในไทยอีก จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจระบบเศรษฐกิจ


ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับเงินแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องกักคดีผับจินหลิงออกนอกประเทศนั้น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่าไม่มีการเรียกค่าหัว ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่หลังจากผู้ต้องกักถูกดำเนินคดีแล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นต้องอยู่ในประเทศไทย ก็ต้องผลักดันกลับประเทศในช่องทางต่างๆ ตามสิทธิ์ หากกักตัวผู้ต้องกักโดยมิชอบ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอาจถูกผู้ต้องกักฟ้องได้ โดยปัจจุบันส่งกลับไปแล้ว 180 คน เหลืออีก 37 คน ที่ยังอยู่ระหว่างอายัดตัวไว้สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งหากแล้วเสร็จก็จะดำเนินการส่งกลับประเทศ

ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ติติงการทำงานของ ตม.นั้น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า ไม่ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อตอบโต้ แต่ในฐานะข้าราชการก็ต้องน้อมรับคำวิจารณ์และการตรวจสอบ เพราะสิ่งที่นายชูวิทย์ พูดเปรียบเสมือนคำแนะนำ ทำให้ ตม. ต้องกลับไปดูข้อกำหนดต่างๆ ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้คนต่างชาติเข้ามากระทำผิดในไทยหรือไม่ นายชูวิทย์ จึงเปรียบเสมือนกระจก ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองต้องรับฟัง. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

พะยูนตัวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวโผล่

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งพบพะยูนบริเวณหน้าเกาะลิบง จังหวัดตรัง เป็นตัวแรก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่