กรุงเทพฯ 25 ธ.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามคดีฟอกเงินเครือข่าย “ตู้ห่าว” ยืนยันสรุปสำนวนคดีส่งอัยการสูงสุดตามกรอบระยะเวลา
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงกรณีจับกุม พ.ต.อ.หญิง ภรรยานายตู้ห่าว และหุ้นส่วนโรงแรม รวม 15 หมายจับ ในข้อหาฟอกเงิน 7 หมายจับ และสมคบคิดกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด จำนวน 8 หมายจับ ในคดีผับจินหลิง โดยเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.65) สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย คดีฟอกเงิน 5 คน และคดีสมคบคิดฯ 3 คน ล่าสุดสามารถจับผู้ต้องหาคดีฟอกเงินได้เพิ่มอีก 1 คน ย่านบางบัวทอง และขณะนี้ยังเร่งติดตามจับกุมอีก 6 คน ตามหมายจับ
สำหรับ พ.ต.อ.หญิง ภรรยานายตู้ห่าว ถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน มีส่วนเกี่ยวข้องและพัวพันกับนายตู้ห่าว โดยเป็นผู้ถือหุ้นโรงแรม ขณะนี้ถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ยานนาวา ส่วนคนอื่นๆ ถูกแยกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ โดยตำรวจขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัยของผู้ถูกควบคุม และจะส่งผู้ต้องหาทั้งหมดขออำนาจศาลฝากขังภายในกรอบระยะเวลา 48 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เผยอีกว่า ที่พนักงานสอบสวนออกหมายจับและดำเนินคดีฐานฟอกเงินเครือข่ายนายตู้ห่าว เนื่องจากตำรวจมีหลักฐานเชื่อมโยงการฟอกเงิน และเป็นเรื่องต่อเนื่องจากคดียาเสพติดของผับจินหลิง ส่วนกรณีที่หลายคนมองว่าเป็นการทำงานทับซ้อนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่นั้น ตนเองมองว่า เมื่อมีพยานหลักฐานจึงดำเนินการไปเลยในคราวเดียวกัน ยืนยันตำรวจทำตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำต่อไปหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจของอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดในการสอบสวนคดีนอกราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงความคืบหน้าคดีนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาโพสต์ตั้งข้อสงสัยในการทำงานของตำรวจนั้น ตนเองไม่ขอตอบคำถามในเรื่องนี้ ขอให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะที่ผ่านมา ตำรวจพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม และออกมาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ยืนยันจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ทันส่งให้อัยการสูงสุด ก่อนครบกำหนดฝากขัง หรืออาจจะเร็วกว่านั้น. – สำนักข่าวไทย