ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดี “แตงโม” 6 จำเลยมาพร้อมหน้า

นนทบุรี 22 ธ.ค. – คดีดาราสาว “แตงโม” ตกเรือเสียชีวิต วันนี้ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน และนัดสืบพยานตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.66 ไปจนถึงวันที่ 16 ส.ค.67 ใช้เวลาเกือบ 2 ปี ด้านแม่แตงโม เผยวันนี้ทำให้เพิ่งรู้ว่าแตงโมตกเรือท่าธรรมดา หวังจำเลยทุกคนจะให้การรับสารภาพ


ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี วันนี้ (22 ธ.ค.) นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เสียชีวิตจากการตกเรือสปีดโบ๊ท โดยศาลจังหวัดนนทบุรีนัดหมายให้ฝ่ายจำเลยทั้ง 6 คน ได้แก่ นายตนุภัทร หรือ ปอ เลิศทวีวิทย์, นายไพบูลย์ หรือ โรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์, น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก จุฑาสุขสวัสดิ์, นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์, นายนิทัศน์ หรือ จ๊อบ กีรติสุทธิสาธร และนายภีม หรือ กุนซือเอ็ม ธรรมธีรศรี เดินทางมาเพื่อเข้ายื่นพยานหลักฐานทั้งหมด โดยทั้ง 6 คน ทยอยมาถึงศาลตามเวลานัดหมาย โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

“แม่แตงโม” ย้ำไม่ติดใจ “ปอ-โรเบิร์ต”
ต่อมานางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม พร้อมทนาย เดินทางมาถึงศาล พร้อมเปิดเผยว่า ส่วนตัวตนไม่ได้ติดใจจำเลยที่หนึ่งกับที่สองแล้ว คือ ปอกับโรเบิร์ต เนื่องจากได้รับการดูแลเยียวยาจนเป็นที่พอใจแล้ว ซึ่งทั้งสองคนยังรักษาสัญญาเป็นอย่างดี ทุกอย่างเรียบร้อยดี ส่วนจำเลยที่เหลือตนยังไม่ได้รับการติดต่อหรือพูดคุยใดๆ ในส่วนนี้ตนยังคงติดใจอยู่ โดยทางทนายกล่าวเพิ่มอีกว่า แม้แม่จะถอนตัวจากการเป็นโจทก์ร่วมแล้ว แต่ถ้าตรวจพบพยานหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์จะพิจารณาฟ้องเพิ่มเติมได้


อัยการยืนยันเดินหน้าเอาผิดจำเลยทั้ง 6 คน
ด้าน น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า แม้ทางมารดาผู้เสียชีวิตจะไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตแล้วก็ตาม ในส่วนนั้นเป็นเรื่องทางแพ่ง แต่ในส่วนของคดีอาญา ทางอัยการซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ยื่นฟ้องโดยตรงกับศาล ยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าดำเนินคดีเอาผิดกับฝ่ายจำเลยทั้ง 6 คนต่อไป

“แม่แตงโม” เผยวันนี้ทำให้รู้ว่าแตงโมตกน้ำท่าธรรมดา
ต่อมาเวลา 14.00 น. หลังการนัดตรวจพยานคดีแตงโมเสร็จสิ้น นางภนิดาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า วันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตนค่อนข้างพึงพอใจในวันนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ตนเพิ่งทราบวันนี้ เบื้องต้นแตงโมตกน้ำด้วยท่าธรรมดา ที่ผ่านมาไม่มีใครบอกเรื่องนี้ แต่รายละเอียดยังไม่ถูกเปิดเผย เพราะอยู่ในสำนวนและต้องรอสืบพยาน ส่วนตัวขอชื่นชมอัยการดาวที่มีความเข้มแข็งและต่อสู้คดีอย่างเอาจริงเอาจัง อีกทั้งประทับใจในท่านผู้พิพากษาที่ให้ข้อคิดเตือนใจสอดแทรกตลอด โดยเฉพาะข้อคิดที่ว่าเราจะไปเอาความผิดโดยไม่มีหลักฐานมันไม่ยุติธรรม ศาลบอกกับทุกคนว่าคดีแตงโมไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เรื่องหนึ่งที่มีพยานหลักฐานชัด ปฏิเสธไม่ได้คือทุกคนดื่มสุรากันหมด ซึ่งไม่สมควรมาลงเรือแต่แรก พอลงเรือก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ได้

ทั้งนี้ ยังไม่มีใครรับสารภาพ ซึ่งคุณแม่คาดหวังในใจว่าอยากให้จำเลยทุกคนรับสารภาพมากกว่าจะปฏิเสธ หลังจากนี้ตนปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการคดีในชั้นศาลต่อไป อีกนานกว่าจะจบ แต่จะยังคงติดตามคดีต่อไป


ขณะที่นายชัยวัฒน์ ทนายความของแม่แตงโม กล่าวว่า คุณแม่แตงโม ซึ่งอยู่ในฐานะผู้เสียหาย มีสิทธิที่จะติดตามความคืบหน้าคดี โดยศาลได้นัดพร้อมเตรียมสืบพยาน วันที่ 2 มีนาคม 2566 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายชี้แจงข้อเท็จจริงและแนวทางการต่อสู้คดี รวมถึงอาจจะให้ทั้ง 6 จำเลยตกลงว่าจะสู้สืบพยานต่อไป หรือรับสารภาพ ส่วนค่าสินไหมทดแทนที่ฝ่ายจำเลยตกลงกับคุณแม่นั้น เรื่องนี้ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังคงมีการจ่ายผ่อนชำระกันในระยะยาว และฝ่ายจำเลยยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงตามปกติ

“กระติก” ยังมั่นใจการต่อสู้คดี
ส่วนกระติก อิจศรินทร์ และแซน วิศาพัช สองจำเลยในคดี ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการนัดตรวจพยานที่ศาลจังหวัดนนทบุรี โดยกระติก กล่าวว่า วันนี้เพิ่งจะตกลงนัดกันได้ลงตัว ซึ่งมีนัดจำนวนเยอะมาก เพราะพยานหลักฐานเยอะทั้งสองฝ่าย ขนาดศาลเองยังบอกว่าพยานหลักฐานคดีเยอะชนิดที่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนประเด็นที่ว่าคุณแม่ไม่ติดใจจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 คือ ปอและโรเบิร์ต แต่อาจจะติดใจจำเลยคนอื่นๆ นั้น ตนไม่ทราบถึงในจิตใจของคุณแม่ว่าคิดอะไร มองว่าเป็นเพียงความเห็นของคุณแม่ เจอกันก็ทักทายคุยตามปกติ สำหรับความมั่นใจในการต่อสู้คดี เน้นเอาความจริงมาต่อสู้เป็นหลัก

ด้านแซน วิศาพัช กล่าวว่า ตนเห็นจากข่าวที่อัยการดาวเผยว่ามั่นใจในคดีและพยานหลักฐานมาก ก็กังวลว่าอาจกลายเป็นการชี้นำสังคมให้ประชาชนเข้าใจตนผิดกับฝั่งตน ทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสิน

สืบพยานคดี “แตงโม” ใช้เวลาเกือบ 2 ปี
ขณะที่นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน กล่าวว่า กระบวนการพิจารณาคดีหลังจากนี้ว่า ศาลเตรียมนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์จำนวน 36 นัด ฝ่ายจำเลย 12 นัด รวมทั้งสิ้น 48 นัด ซึ่งฝั่งของอัยการเตรียมพยานบุคคลจำนวน 139 ปากมาสืบพยาน ส่วนฝ่ายจำเลย รวมมีพยานบุคคลทั้งสิ้น 40 ปาก ที่จะนัดสืบ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาการสืบพยานถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2567 หลังจากนี้จะนัดพร้อมให้ทั้งสองฝ่ายแถลงความพร้อมเรื่องการสืบพยานหรือแนวทางการต่อสู้คดีในวันที่ 2 มีนาคม 2566 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี และนัดสืบพยานนัดแรกวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เมื่อนัดสืบพยานครบถ้วนทั้ง 48 นัดแล้ว ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ปี ศาลจะพิพากษาตัดสินคดีในชั้นต้นต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบกระทรวงเกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวงตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา และโครงการล้งแห่งชาติ […]

มทภ.2 เผย “ในหลวง” ทรงติดตามกองทัพสู้ศึกชายแดน ถวายรายงานทุกวัน

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” บรรยายพิเศษ รร.สาธิต ม.เกษตรฯ เผย “ในหลวง” องค์จอมทัพไทย ทรงติดตามกองทัพ สู้ศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุถวายรายงานสถานการณ์ทุกวัน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาและบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และคนไทยทุกคน พล.ท.บุญสิน เล่าถึงสถานการณ์ทหารแนวหน้าให้เด็กๆ ฟัง พี่เขาฝากมาว่า หากพี่น้องคนไทยสู้ ลูกหลานเราสู้ พี่ๆ ทหารก็สู้ พี่ๆ ทหารฝากบอกว่าไม่ต้องห่วงพวกผม ขอเพียงกำลังใจจากคนไทยเท่านั้น นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลามีจิตวิญญาณของพระนเรศวร พวกเราไม่ต้องหวังว่าสถานการณ์ทหารไทยจะสู้หรือไม่ ชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เราจะต้องปกป้อง ใครรุกล้ำดินแดนของเรา ต้องผลักดันออกไป ยืนยันว่าเราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น เรารบในประเทศไทยทั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยกองงานของพระองค์ ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย และตั้งแต่ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม ดังนั้นทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติทุกคน […]

รวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมพวก ตามหมายจับคดีรุกป่า

14 ส.ค.- “บิ๊กเต่า” บุกรวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมเมียและพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 กรณีรุกที่ดินนิคมลำโดมน้อย สร้างรีสอร์ต เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าควบคุมตัวนายยุทธพล ศรีสมพงษ์ และนางสาวจิราพร สีบุระ ภรรยา พร้อมพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 ในความผิด ม.157 ซึ่งบัญญัติว่าด้วยความผิดของเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เมื่อปี 2564 นายยุทธพล (จอนนี่) และภรรยา ได้ทำการซื้อที่ดินว่างไม่มีเอกสารสิทธิใน ต.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี และก่อสร้างรีสอร์ตโดยไม่ขออนุญาต ซึ่งทางนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ส่วนกลาง 20% ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดที่ดินฯ แต่ทั้งสองยังคงดำเนินการร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน จัดประชาคมและรับรองเท็จว่าที่ดินไม่มีข้อพิพาท ไม่อยู่ในเขตป่าสงวน พร้อมแก้ไขเอกสารเพื่อปกปิดข้อเท็จจริง รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบต. ได้รับรองสิ่งปลูกสร้างแม้ทราบว่าไม่ได้รับอนุญาต […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]