ก.ยุติธรรม 22 ธ.ค. – กระทรวงยุติธรรม รับเรื่องจากญาติผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กรณีถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดวิสามัญฯ และกรณีผู้เสียหายถูกเด็กอายุ 13 ปี ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน
นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องจากญาติผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กรณีถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดวิสามัญฆาตกรรม เพื่อให้ตรวจสอบว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ และกรณี “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหายซึ่งถูกเด็กอายุ 13 ปี ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน เหตุเกิดในจังหวัดสุรินทร์
นางสาวณัฐธ์ภัสส์ กล่าวว่า กรณีแรกญาติผู้เสียชีวิตได้มาร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตสืบเนื่องจากว่าเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้มีการไล่จับกุมผู้เสียชีวิตซึ่งมียาไอซ์ประมาณ 10 กิโลกรัม โดยมีการยิงเข้าไปในรถยนต์และผู้เสียชีวิตวิ่งหนีลงน้ำ ตำรวจจึงอุ้มขึ้นจากน้ำมา ซึ่งวันนี้ได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรมในเรื่อง 1.ขอให้ตรวจสอบว่าตำรวจปราบปรามยาเสพติดทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ 2. อยากให้กระทรวงยุติธรรม โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ช่วยตรวจสอบคราบเขม่าดินปืนว่า ผู้เสียชีวิตได้มีการยิงต่อสู้กันหรือไม่ แต่ขณะนี้ทางกระทรวงยุติธรรมได้รับทราบว่า ญาติผู้เสียชีวิตรอผลการตรวจชันสูตร จากสถาบันนิติเวชของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 30-45 วัน ถึงทราบผล ขณะนี้ญาติได้เก็บศพผู้เสียชีวิตไว้ที่วัดซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นทางกระทรวงยุติธรรมจึงให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้วยการให้นำศพผู้เสียชีวิตไปเก็บไว้ยังห้องศพ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไว้ก่อน หากผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ออกมาแล้วญาติยังติดใจผลการตรวจพิสูจน์จะให้ตรวจพิสูจน์ครั้งที่ 2 ก็ให้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงยุติธรรม เพื่อกระทรวงยุติธรรมจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
กรณีถัดมา “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหาย ซึ่งถูกเด็กอายุ 13 ปี ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน เหตุเกิดในจังหวัดสุรินทร์ เข้าร้องทุกข์สืบเนื่องมาจากว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ผู้เสียหายอยู่ที่บ้านและมีเด็กอายุ 13 ปี ซึ่งเมายาบ้าและเป็นเยาวชนที่อยู่ในหมู่บ้านได้เข้ามาทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน จนทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ และได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ยังสถานีตำรวจ โชคนาสาม จ.สุรินทร์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายและทางสถานีตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์บันทึกประจำวันเฉพาะกรณีว่าผู้ที่ก่อเหตุได้เข้ามาในบ้านและทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บแล้วออกจากบ้านไป มิได้ดำเนินคดีเกี่ยวกับคดีข่มขืนแต่อย่างใด ผู้แจ้งจึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับเด็กชายคนนั้นให้ถึงที่สุด
“วันนี้ผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับกระทรวงยุติธรรม จึงดำเนินการประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ท่านได้รับเรื่อง และจะไปดูเรื่องสำนวนบันทึกประจำวันให้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป และได้ให้ผู้เสียหายยื่นหนังสือเพื่อขอรับเงินเยียวยาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาเนื่องจากเป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังมีเรื่องการคุ้มครองพยาน ที่ผู้เสียหายเกรงว่าผู้กระทำผิดจะมาทำร้ายอีกเนื่องจากผู้เสียหายอยู่ลำพังกับลูกสาว 2 คน และตัวผู้กระทำผิดยังไม่ถูกจับกุม ซึ่งถ้าผู้เสียหายร้องขอด้วยความกังวลที่จะเกิดเหตุอีกจะดำเนินการจัดชุดคุ้มครองพยานดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ผู้เสียหายต่อไป” นางสาวณัฐธ์ภัสส์ กล่าว. -สำนักข่าวไทย