จยย. ซ้อน 3 ชนท้ายรถกระบะ ถูกรถพ่วงขยี้ร่างดับ 2 ศพ

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. – รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 ชนท้ายรถกระบะก่อนเสียหลักล้มร่างไถลเข้าใต้รถพ่วง 18 ล้อ แม่ลูกเสียชีวิต 2 ราย คนขี่ จยย. บาดเจ็บ


ตำรวจ สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุรถเฉี่ยวชนกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณช่องทางด่วนปากซอยบรมราชชนนี 111 ย่านทวีวัฒนา ที่เกิดเหตุเป็นถนนช่องทางหลัก จำนวน 3 เลน เลนซ้ายสุดพบ รถ 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จอดอยู่ก่อนถึงบริษัทน้ำพริกเผาแม่ประนอม 100 เมตร ห่างไปด้านหลังอีก 100 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว พลิกคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันพบศพ นางลัดดาวัลย์ อายุ 34 ปี ครูอนุบาลโรงเรียน ย่านตลิ่งชัน และ ด.ญ. อายุ 9 ปี ลูกสาวนักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนเดียวกัน ถูกล้อหลังฝั่งขวาทับศีรษะและร่างกาย ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว คือ นายจารึก อายุ 41 ปี เป็นเพื่อนบ้านผู้ตายทั้ง 2 ราย มีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง ถูกนำส่งโรงพยาบาลวิชัยเวชหนองแขม ไปก่อนหน้านี้

สอบสวน นายพงศภัค อายุ 50 ปี คนขับรถ 18 ล้อ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถนำสินค้าเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ออกจากบริษัทย่านพุทธมณฑลสาย 3 กำลังมุ่งหน้าไปส่งตามจุดหมายในพื้นที่ภาคใต้มาทางเลนซ้ายสุด จู่ๆ รถจักรยานยนต์คู่กรณี ซ้อน 3 มาเลนขวาสุด เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนท้ายรถบรรทุก 4 ล้อ จนรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำทำให้ร่างคนขับและคนซ้อนท้าย ทั้ง 3 ราย ไถลมาเข้าล้อหลังตัวพ่วงฝั่งขวารถตน


เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า นายจารึก คนขี่รถจักรยานยนต์แวะรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย หลังโรงเรียนเลิกกำลังจะมุ่งหน้ากลับบ้านพักที่ จ.นครปฐม แต่ประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง พนักงานสอบสวนยังไม่แจ้งข้อหากับฝ่ายใด และเชิญตัวคนรถที่เกี่ยวข้องทุกคันไปสอบปากคำที่โรงพัก ก่อนติดตามไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และจะสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์เพื่อสรุปสำนวนคดีตามกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]

กัมพูชาประท้วงไทยกรณีแจ้งดำเนินคดี ‘ฮุน เซน’

พนมเปญ, 23 มิ.ย. – กัมพูชายื่นเรื่องร้องเรียนทางการไทย หลังไทยแจ้งดำเนินคดีกับนายฮุน เซน นอกจากนี้ยังมีคำเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทยด้วย กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ส่งบันทึกทางการทูตที่มีถ้อยคำแข็งกร้าวถึงสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญเพื่อประท้วงกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เอาผิดกับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรี กรณีปล่อยคลิปเสียงสนทนากับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าการปล่อยคลิปเสียงเป็นภัยต่อความมั่นคง และสร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุว่า ต้องการเน้นย้ำว่าบันทึกการสนทนาระหว่างผู้นำประเทศถือเป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันด้านความถูกต้องแม่นยำและโปร่งใส และว่าการแจ้งดำเนินคดีของนายสมคิดเป็นการกระทำที่มีแรงจูงใจทางการเมืองซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างไทยกับกัมพูชา และยังทำลายหลักการความเสมอภาคของอธิปไตย ตลอดจนความเคารพซึ่งกันและกันตามที่บัญญัติไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมกันนี้กัมพูชาขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยใช้มาตรที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขและป้องกันการกระทำใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ฉันมิตรอันยาวนานระหว่างไทยกับกัมพูชา อีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ออกคำเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เว้นแต่จะมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น และขอให้ชาวกัมพูชาที่อยู่ในไทยติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด และให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงอันตราย เช่น พื้นที่ทีการชุมนุมทุกชนิดเพื่อความปลอดภัย ส่วนกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชาก็ออกมายืนยันว่า กัมพูชามีขีดความสามารถในการจัดหาเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติได้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศอย่างแน่นอน หลังจากที่นายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรี ประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากไทยทั้งหมด ซึ่งมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา.-816.-สำนักข่าวไทย