ชายหญิงเล่นจ้ำจี้ร้านซักผ้าดอดรับทราบข้อหาเมื่อคืน

กรุงเทพฯ 14 ธ.ค. – ชายหญิงมีเพศสัมพันธ์กันในร้านซักผ้าหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 13 เขตหนองจอก เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วกลางดึกคืนที่ผ่านมา สารภาพก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำไปเพราะความคึกคะนอง ขาดความยั้งคิด


ล่าสุด พ.ต.อ.ประเสริฐ สอนแจ่ม ผู้กำกับการ สน.หนองจอก เปิดเผยว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 24.00 น. ผู้ต้องหาทั้งสองได้มาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำไปเพราะความคึกคะนอง ขาดความยั้งคิด พนักงานสอบสวนจึงดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 388 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

โดยผู้ต้องได้ก่อเหตุ 2 ครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหาเพื่อนำตัวไปส่งให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญามีนบุรี พิจารณาสั่งฟ้องแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา หากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องก็จะส่งตัวไปฟ้องศาลอาญามีนบุรีต่อไป


ล่าสุดหัวหน้าพนักงานอัยการเห็นควรให้ส่งสำนวนคดีกลับสู่พนักงานสอบสวน เพื่อใช้ดุลยพินิจดำเนินการเปรียบเทียบปรับ เพราะมีอำนาจสั่งปรับได้ตามกฎหมาย อีกทั้งเป็นคดีลหุโทษ จึงไม่จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล อีกทั้งผู้ต้องหารับสารภาพและมีความประสงค์ที่จะขอเปรียบเทียบปรับในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงได้เปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งกระทำความผิดคนละ 2 กรรม ๆ ละ 3,000 บาท คือให้ผู้ต้องหาเสียค่าปรับคนละ 6,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาได้เปิดใจกับสื่อมวลชนต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป สาเหตุมาจากความคึกคะนองไม่ทันยั้งคิด ขณะที่ผ่านร้านจุดเกิดเหตุรู้สึกตื่นเต้นอยากลอง จึงชวนแฟนสาวลงไปทำกิจกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการ โดยไม่ได้จะทำคอนเทนต์ลงสื่อโซเชียลแต่อย่างใด

อีกทั้งยังฝากขอโทษไปยังเจ้าของร้านซักผ้าและประชาชนกับสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต จนทำให้เข็ดขยาดและจะไม่ไปก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอีกต่อไป ส่วนการที่มีผู้นำคลิปภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุไปแชร์หรือโพสต์ในสื่อโซเชียล ผู้ต้องหาไม่ติดใจเอาความ แม้จะเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลก็ตาม เพียงแต่ขอความเมตตาให้ยุติการแชร์คลิปดังกล่าวออกไป เพราะรู้สึกสำนึกผิดแล้ว. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”