นนทบุรี 6 ธ.ค.- ผู้เสียหายรวมตัวร้อง “ทนายรณณรงค์” ช่วย เงินในบัญชีธนาคารที่ผูกไว้กับแอปฯ ดัง ถูกตัดจ่ายอัตโนมัติ ทั้งที่ไม่ได้สั่งซื้อสินค้า
ผู้เสียหายมีทั้งที่เป็นผู้ซื้อและผู้ขายสินค้ากับบริษัทแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง ระบุทางบริษัทให้ผู้ขายผูกบัญชีธนาคารกับแอปฯ ต่อมาพบความผิดปกติ ยอดเงินธนาคารส่วนตัวถูกหักไปอัตโนมัติรวม 4 ครั้ง กว่า 10,000 บาท ทวงถามไปยังบริษัท พูดคุยกับตัวแทนทาง Call Center ร้องขอให้บริษัทและธนาคารพยายามอายัดเงิน เพราะไม่เคยทำรายการสั่งซื้อสินค้า แต่ได้รับการปฏิเสธ ไม่สามารถคืนให้ได้ อ้างว่าเป็นรายการซื้อสินค้าออนไลน์ที่ไม่เข้าเงื่อนไขการคืนเงิน
เจ้าตัวยืนยันรายการสินค้าที่ถูกหักเงินไป เป็นสินค้าประเภทบัตรเติมเงินเกมออนไลน์ ซึ่งสินค้าประเภทนี้ต้องห้ามไม่สามารถเข้ามาขายในแพลตฟอร์มดังกล่าว อีกทั้งส่วนตัวไม่เคยมีบัญชีการเล่นเกมออนไลน์ใดๆ ด้วย
และยังมีอีกรายในฐานะผู้ซื้อผูกบัญชีธนาคารส่วนตัวไว้กับช่องทางของแอปฯ ในการชำระค่าซื้อสินค้า พบความปกติมียอดเงินหักบัญชี 18 ครั้ง ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ชม. ยอดเสียหายกว่า 100,000 บาท โดยร้านที่มีการหักบัญชีสินค้าพบเป็นร้านเดียวกับที่ผู้เสียหายหลายคนโดน เป็นร้านที่จำหน่ายบัตรเติมเงินเกมออนไลน์เช่นกัน นอกจากนี้ ยังพบเงินในบัญชีธนาคารส่วนตัวถูกหักไปในการทำธุรกรรมรายการซื้อสินค้าเติมเงินเกมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อื่นด้วย ทั้งที่ไม่ได้สั่งซื้อ
ด้านทนายรณณรงค์ ระบุว่าผู้เสียหายกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศกว่า 50 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท อยู่ระหว่างการประสานผู้เสียหายให้รวบรวมข้อมูลเข้ามาเพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทคืนเงินภายใน 3 วัน และกรณีนี้เข้าข่ายองค์ประกอบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งธนาคารจำเป็นต้องรับผิดชอบ แม้ผู้เสียหายเป็นผู้เปิดบัญชีกับธนาคาร แต่เมื่อมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าของบัญชีไปทำธุรกรรมทางเงิน แต่ไม่ได้ทำสัญญามอบหมายให้มีบุคคลอื่นเข้าไปทำธุรกรรมถอนเงินด้วยตัวเอง
ทางธนาคารจำเป็นต้องรับผิดชอบ กรณีนี้มีคำพิพากษาของศาลฎีกาอ้างอิงเทียบเคียงคดีไว้ เตรียมประสานผู้เสียหาย รวบรวมพยานหลักฐานยื่นให้ถึงอัยการสูงสุดบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ธนาคารชดใช้เยียวยากับผู้เสียหาย อีกทั้งกรณีนี้ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย