“บิ๊กโจ๊ก” นำทีมขยายผลปิด 2 คดีเกี่ยวกับเพศ-ค้าประเวณีผ่านทวิตเตอร์

กรุงเทพฯ 1 ธ.ค. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” นำทีมขยายผลปิด 2 คดีเกี่ยวกับเพศ ค้าประเวณีผ่านทวิตเตอร์ และแก๊งจีนไลฟ์มีเพศสัมพันธ์


ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ศพดส.ตร. ได้ดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์ และการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศหลากหลายรูปแบบมาอย่างต่อเนื่อง ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้มีการนำเสนอข่าวแล้วนั้น ในห้วงเดือนที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบขยายผลจับกุมคดีเกี่ยวกับการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในพื้นที่ ภ.5 จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย

กรณีที่ 1 นายหน้าค้าประเวณีผ่านทวิตเตอร์
เมื่อประมาณเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ TICAC ภ.5 ร่วมกับ บก.สอท.4 และ พม.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยมูลนิธิ OUR ได้บูรณาการร่วมกันตรวจสอบกรณีพบการสร้างบัญชีทวิตเตอร์ และได้มีการโพสต์เสนอขายบริการทางเพศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะจัดหาหญิงสัญชาติเมียนมามาบริการทางเพศ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนและตรวจสอบบัญชีดังกล่าวจนทราบตัวผู้ใช้บัญชีดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ได้แก่ 1.นางนานเกี๋ยงคำ อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา โดยจะดำเนินคดีในความผิดฐาน “เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม”


ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการ TICAC สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่หอพักไม่มีชื่อ หมู่ 5 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมเข้าช่วยเหลือหญิงที่ถูกพามาให้บริการทางเพศชาวเมียนมาได้จำนวน 5 คน ได้แก่ 1.เอลู่ หรือน้องพลอย สัญชาติเมียนมา อายุ 21 ปี 2.มน หรือน้องฝน สัญชาติเมียนมา อายุ 19 ปี 3.นาน คาน ลู หรือน้องดาว สัญชาติเมียนมา อายุ 26 ปี 4.แสงนวล หรือน้องฟ้า สัญชาติเมียนมา อายุ 20 ปี 5.จาม จาม ลุงส่างอ่อง หรือน้องเมย์ สัญชาติเมียนมา อายุ 20 ปี

โดยตัวผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการเป็นนายหน้าในการขายบริการทางเพศผ่านทางโซเซียลมีเดีย คิดค่าบริการ 1,000 บาท นายหน้าได้ 200 บาท และตัวหญิงที่ให้บริการจะได้ 800 บาท

กรณีที่ 2 แก๊งคนจีนไลฟ์มีเพศสัมพันธ์
หลังจากเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ได้มีการเข้าตรวจค้นรีสอร์ต 2 แห่ง ในพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจพบแก๊งคนจีนเช่าสถานที่ดังกล่าวในการไลฟ์มีเพศสัมพันธ์ผ่านแอปฯ จีน โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 14 คน รวมทั้งบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาวอีก 30 คน ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียเคยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ได้ทำการขยายผลจากกรณีดังกล่าว จนสืบทราบว่ายังมีแก๊งคนจีนที่กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันอีก โดยมีคนจีน 2 คนเป็นหัวหน้าแก๊งดังกล่าว คือ นางลีน่า และนางโมโม่ สัญชาติจีน โดยมีการเช่าสถานที่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ชลบุรี ในการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ และใช้นักแสดงเป็นคนไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนได้สืบทราบว่า น.ส.ลีน่า และ น.ส.โมโม่ ได้แยกกันทำงานและเช่าสถานที่ถ่ายทำแบ่งเป็น 2 จุด จึงเดินเข้าตรวจค้นและจับกุมทั้ง 2 จุดดังกล่าว ประกอบด้วย 1.บ้านต้นเกว่น ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จากการเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ได้แก่ 1.นางเหวิน ลีน่า สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าแก๊ง ทำหน้าที่คอยจัดการการถ่ายทอดสด จ่ายเงินให้นักแสดง และพากย์เสียงภาษาจีน 2.นายปิยะพงษ์ หรือเอ้ ทำหน้าที่เป็นล่าม จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายดังกล่าวดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า หรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามก” นอกจากนี้ยังตรวจพบนักแสดงจำนวน 10 ราย พบว่าเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์จำนวน 5 ราย

2.บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 4 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จากการเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ได้แก่ 1.นางซิง เอ้อ หง หรือโมโม่ สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าแก๊ง ทำหน้าที่คอยจัดการการถ่ายทอดสด จ่ายเงินให้นักแสดง และพากย์เสียงภาษาจีน 2.นายสุวรรณ หรือไบรท์ เป็นผู้ช่วย 3.น.ส.สรัลชนา หรือฉิง เป็นล่าม

จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายดังกล่าวดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า หรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามก” นอกจากนี้ยังตรวจพบนักแสดงจำนวน 9 ราย พบว่าเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์จำนวน 5 ราย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบเป็นอีกคดีที่ในห้วงเวลาที่ผ่านมาเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยมีเยาวชนตกเป็นเหยื่อให้กับกลุ่มแก๊งเหล่านี้รวมอยู่ด้วย ดังนั้น ศพดส.ตร. และชุดปฏิบัติการ TICAC จึงต้องมีการดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง 2 คดี ในวันนี้เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ทั้งในรูปแบบของการเสนอขายบริการทางเพศผ่านทางทวิตเตอร์ และการไลฟ์การมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอปฯ จีน ซึ่งชุดปฏิบัติการ TICAC ได้บูรณาการร่วมกับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น พม.จว. หรือภาคประชาสังคม ในการเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากการกระทำผิดดังกล่าว รวมทั้งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด จากนี้จะยังมีการขยายผลการจับกุมความผิดลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศผ่านทางอินเทอร์เน็ตให้หมดไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ