พบโครงกระดูกมนุษย์ในบ้าน คาดเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ปี

กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – เพื่อนบ้านสยอง นอนใกล้ศพมานานหลายปี พบโครงกระดูกมนุษย์ ในทาวน์โฮม หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ปี


ตำรวจ สน.คลองตัน ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายปี ที่บ้านหลังหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์ เขตสวนหลวง จึงเร่งเข้าไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรนิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น เชิงบันไดชั้น 2 พบศพ นายเอกกมล สุกิจจวนิช อายุ 36 ปี ในสภาพศพแห้งเป็นโครงกระดูก สวมเสื้อโปโลแขนสั้นสีขาว กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ นอนหงายทับผ้าห่ม กะโหลกศีรษะพาดบันไดขั้น 2 ที่ลำคอมีสายไฟรัดคอ ยาวประมาณ 1 เมตร ปลายสายไฟขาดจากสายไฟที่ผูกกับราวบันไดชั้นสาม เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ปี นอกจากนี้ ในห้องนอนของผู้ตายชั้น 2 พบจดหมายลาตาย มีข้อความเลือนลาง ยังระบุไม่ได้ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องอะไร


เจ้าหน้าที่สอบสวน ทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องชายเจ้าของบ้าน ไม่มีงานทำ ช่วงหลังมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โดยพี่ชายผู้เสียชีวิตมีฐานะดี อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ให้น้องชายมาอยู่บ้านหลังเกิดเหตุคนเดียว โดยเมื่อ 4-5 ปี ก่อนหน้านี้ ผู้เสียชีวิตบอกกับพี่และญาติพี่น้องว่า จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป ญาติพี่น้องแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.คลองตัน เมื่อปี 2561

ทั้งนี้ วันที่พบศพนายเอกกมล พี่ชายซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมช่าง ได้เดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ หลังจากปล่อยร้างไว้หลายปี เพื่อจะปรับปรุงซ่อมแซม แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในบ้าน ต้องตกใจอย่างสุดขีด เมื่อพบศพซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิตมาเป็นเวลานาน และคาดเป็น นายเอกกมล น้องชายของตนเองที่ขาดการติดต่อมาหลายปี ซึ่งเข้าใจมาโดยตลอดว่าไปทำงานต่างประเทศ

ขณะที่เพื่อนบ้านต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า 4-5 ปี ที่ผ่านมา ไม่ได้กลิ่นเหม็นของศพหรือสิ่งผิดสังเกตใดๆ และพากันหวาดผวา ไม่น่าเชื่อว่าพวกตน นอนอยู่ใกล้ศพผูกคอตายมานานหลายปี


ด้าน พ.ต.ท.ปรีดา มะเดื่อ สว. (สอบสวน) สน.คลองตัน กล่าวว่า บ้านที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการงัดแงะหรือรื้อค้น ตรวจสอบทรัพย์สินไม่มีสูญหาย เบื้องต้นคาดว่า นายเอกกมล อาจเครียดปัญหาชีวิต หรือเครียดโรคประจำตัว จึงฆ่าตัวตาย ส่วนผ้าห่มที่ศพนอนทับอยู่นั้น คาดตกหล่นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะต้องส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ประกอบกับ ผลการตรวจที่เกิดเหตุ และต้องตรวจดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันว่า ศพดังกล่าว คือ นายเอกกมลจริง จึงจะส่งมอบให้ญาติ รับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ