สตม. แถลงผลการจับระดมกวาดล้างอาชญากรรม

กทม. 13 พ.ย.- สตม. ตั้งโต๊ะแถลงผลกวาดล้างอาชญากรรม ก่อนการประชุมเอเปค 2022 จับกุมผู้ต้องหารายสำคัญทั้งคดีฉ้อโกงและแก๊งคอลเซ็นเตอร์


10.00 น. พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. พร้อมนายตำรวจระดับสูง ของ สตม. แถลงผลการจับระดมกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายน 2565 ก่อนการประชุมผู้นำเศรษฐกิจการค้าเอเปค 2022 โดยสามารถจับกุมได้หลายคดี ประกอบด้วยกลุ่มต่างดาว หรือเป็นบุคคลอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด อนุญาต 785 ราย หลบหนีเข้า 1,249 ราย โดยแบ่งเป็นคนลาว 770 ราย เมียนมา 349 ราย กัมพูชา 108 ราย และอื่นๆ 22 ราย โดยในจำนวนนี้มีคดีสำคัญ รวม 3 คดี ซึ่ง 2 คดีแรก เป็นหมายจับของอินเตอร์โพล

คดีแรก ตำรวจ ตม. สามารถจับกุมนายหลี่ (นามสมมุติ) สัญชาติจีน อายุ 27 ปี ซึ่งมีหมายจับจากทางการจีนในคดีฉ้อโกงประชาชนผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งมีผู้เสียหาย กว่า 4 แสนราย มูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท ซึ่งจากการสืบสวนและติดตามเส้นทางการหลบหนีของทางการจีน พบว่านายหลี่ ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จึงประกาศหมายจับดังกล่าวลงในอินเตอร์โพล ก่อนประสานทางการไทยเร่งดำเนินการจับกุมและในที่สุดทางการก็จับกุมนายหลี่ ได้ที่หน้าบ้านพักย่านสุทธิสาร จากการสอบสวนนายหลี่รับสารภาพได้ร่วมกับพวก เปิดแอปพลิเคชัน ให้คนจีนร่วมลงทุนเพื่อผลกำไร แต่หลังจากมีคนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ยอดเงินสูงพอสมควรจึบปิดแอปพลิเคชันหนีหายพร้อมกับเงิน ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีออกนอกประเทศ


คดีที่ 2 เป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายอินเตอร์โพล หลังกระทำความผิดในจีน ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ คือนายหู ชาวจีน อายุ 40 ปี ข้อหาครอบครองสิ่งต้องห้ามและปลอมเอกสาร จากสืบสวนและการติดตามตัวพบว่าหลบหนีในย่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ

ส่วนคดีที่ 3 ซึ่งเป็นคดีสำคัญ เป็นการจับกุมนายจาง สัญชาติไต้หวัน ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฟิลิปปินส์ โดยนายจางถือหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชาในการเดินทางเข้าประเทศไทย วันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลไปตรวจสอบผ่านระบบไบโอเมตริกซ์ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบใบหน้าคล้ายกับนายโด ชาวไตหวัน จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นบุคคลเดียวกัน จึงประสานไปยังสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย พบนายจาง มีพาสปอร์ตอีก 2 เล่ม โดยเล่มแรก ใช้ชื่อว่า นายโด ชาวไตหวัน หลังจากการตรวจสอบว่านายโดเสียชีวิตไปแล้ว กว่า 10 ปี ส่วนพาสปอร์ตใบที่3 นายฟู่หวัง ชาวไตหวัน ตรวจสอบพบว่านายฟู่หวัง เป็นบุคคลที่ต้องคดีอยู่ในไต้หวันและไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศเลย อย่างไรก็ตามหลังได้ข้อมูล ตม.จึงทำการอายัดตัวนายจางไว้ ซึ่งคาดว่าภายในวันพรุ่งนี้ จะชัดเจนว่านายจาง เป็นใครกันแน่ แต่จากการยืนยันของทางการไต้หวัน เชื่อว่านายจาง คือหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ของฟิลิปปินส์ โดย ตำรวจ ตม.อยู่ระหว่างการขยายผลเส้นทางการเงินและตรวจสอบทรัพย์สินของนายจางทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทย เพื่อนำเนินการอายัดตามคำร้องขอของทางไต้หวัน

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ทางการไทยดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศและส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทาง ทั้งจีนและไต้หวัน ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม