ตร.ไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ “หักซิมม้า” กวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์

กรุงเทพฯ 10 พ.ย. – ตำรวจไซเบอร์ ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการ “หักซิมม้า” กวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ จับกุมหญิงอายุ 31 ปี ยึดซิมการ์ดจำนวนมาก


เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ร่วมกับตำรวจกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สํานักงาน กสทช. เปิดปฏิบัติการ “หักซิมม้า” กวาดล้าง จับกุมอาชญากรรมออนไลน์

โดยนำหมายศาลเข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นสถานที่ตั้งและใช้ในการกระทําความผิด “ปลอมเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ http:// thaionline.xyz” เพื่อหลอกลวงเอาข้อมูลบัตรประจําตัวประชาชน และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ รวม 4 จุด เช่น บ้านหลังหนึ่ง ถ.กาญจนาภิเษก เขตบางเขน จับกุม น.ส.ธรรศนนรรญ์ อายุ 31 ปี ในความผิดฐาน “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” และได้การสนับสนุนจากองค์กร โอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวด์ เรลโรด ไทยแลนด์ (O.U.R.) นําสุนัขอัจฉริยะ (ESD K9 Hidu) ชื่อ “ฮิดุ” สายพันธุ์ลาบราดอร์ ดมกลิ่นหาหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ ตรวจยึดซิมการ์ด 1,700 ซิม โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง


นอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านย่านวงแหวน-รามอินทรา ถ.กาญจนาภิเษก เขตคันนายาว ตรวจยึดซิมการ์ด 5,186 ซิม คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ โดยผลการตรวจค้นในครั้งนี้สามารถตรวจยึดซิมการ์ดไว้เพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวมจํานวน 7,427 ซิม

ทั้งนี้ กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ยังคงมุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล และสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ในการบังคับใช้กฎหมาย ดําเนินการเชิงรุก ปราบปรามจับกุมผู้กระทําความผิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม คํานึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน และการอํานวยความยุติธรรม เพื่อบําบัดทุกข์ บํารุงสุขของพี่น้องประชาชนเป็นสําคัญ ตามวิสัยทัศน์ของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ว่า “เป็นตํารวจมืออาชีพ ทํางานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน”

หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทําความผิด กรุณาแจ้งมายังกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เลขที่ 904 ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ (รัชกาลที่ 10) ตําบลบ้านใหม่ อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือ www.thaipoliceonline.com -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”