กรุงเทพฯ 29 ต.ค. – ตำรวจไซเบอร์ รวบหญิงชาวจีน คาคอนโดย่านห้วยขวาง หลังพบเชื่อมโยงขบวนการหลอกลงทุนซื้อ-ขาย เงินสกุลดิจิทัล พบเงินหมุนเวียนในบัญชี 125 ล้านบาท
ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.1 ได้สืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหาในขบวนการหลอกลงทุนซื้อ-ขาย เงินสกุลดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันเทรดปลอม (BitMEX) ได้รับความเสียหาย จำนวน 23 ล้านบาท จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้าย พบว่ามีการนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิด แปรสภาพ โดยนำเงินสดไปซื้อเหรียญคริปโตเคอเรนซี (USD) บนกระดานซื้อ-ขาย สินทรัพย์ดิจิทัล ของต่างประเทศ และนำเหรียญคริปโตเคอเรนซี ( USDT) ที่ได้มานั้น วนกลับมาขายให้กับลูกค้า นอกกระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนติดตาม
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของ นางสาวลี จาง อายุ 40 ปี สัญชาติจีน พบความเชื่อมโยงเกี่ยวกับธุรกิจขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี (USDT) ที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับการฟอกเงินให้กลุ่มคนร้ายในคดีดังกล่าว กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท. 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. , บก.ตม.1 ตำรวจจึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นห้องพักคอนโดแห่งหนึ่ง บนถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
จาการตรวจค้นพบนางสาว ลี พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักดังกล่าว จาการตรวจค้น พบเครื่องคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 9 เล่ม, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง และหนังสือเดินทางสัญชาติจีนของบุคคลอื่น จำนวน 30 เล่ม โดยนางสาว ลี ให้การว่า ตนเองเข้ามาในประเทศไทย โดยขอวีซ่า ติดตามครอบครัว และได้รับจ้างจากคนจีนที่อยู่ในประเทศไทย ให้ดำเนินการเรื่องขอต่อวีซ่า และมีรายได้จากซื้อ-ตั๋ว เครื่องบินให้กับคนจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย
พบว่าพฤติการณ์ของ นางสาว ลี เข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว ในความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดหนังสือเดินทาง จำนวน 30 เล่ม พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากตรวจสอบบัญชีธนาคารของ นางสาวลี 5 เดือนย้อนหลัง พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 125 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายได้จากการรับต่อวีซ่า และรับจ้างซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับลูกค้าชาวจีน เมื่อตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของนางสาว ลี พบว่ามีเหรียญคริปโตเคอเรนซี USDT ผ่านเข้า-ออก กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ชัดเจนถึงแหล่งที่มา เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินต่อไป .-สำนักข่าวไทย