สาวจีนเที่ยวผับดับ พบสารเสพติดในร่างกายสูง

กทม. 26 ต.ค. – คลี่คลายแล้วบางส่วน คดีสาวจีนเสียชีวิตหลังไปเที่ยวผับย่านรัชดาภิเษก ส่งศพชันสูตรพบสารเสพติดในร่างกายจำนวนมาก ส่วนการขยายผลพบทั้งคนไทยและคนจีนเกี่ยวข้องร่วมเผาทำลายพยานหลักฐานด้วย


คดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้ข้อมูลว่า เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงตี 1 วันที่ 17 กันยายน สาวจีนวัย 32 ปี ถูกพบเสียชีวิตปริศนาหลังไปเที่ยวผับย่านรัชดาฯ กับเพื่อน และคดีได้รับความสนใจในหมู่คนจีน เพราะผู้เสียชีวิตอยู่ในแวดวงไฮโซ รวมถึงญาติคาใจสาเหตุการเสียชีวิต

การสืบสวนของตำรวจในตอนแรกพบว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าไทยมากับเพื่อนผู้หญิงอีก 3 คน ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ต่อมาคืนวันที่ 16 กันยายน ไปเที่ยวผับย่านรัชดา และชวนหนุ่มเอนเตอร์เทนชาวจีน 3 คนไปเที่ยวด้วย จากนั้นช่วงตี 1 วันที่ 17 ผู้เสียชีวิตเกิดอาเจียน และช็อกหมดสติ รปภ.ร้านต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดยื้อ และแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากพิษของสารเสพติด เพราะตรวจพบสารแอมเฟตามีน และปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงมาก ตำรวจจึงเรียกคนที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวน แต่ทั้งหมดปฏิเสธเรื่องการใช้ยา รวมถึงตำรวจตรวจสารเสพติด และไม่พบ จึงปล่อยตัวไป ทำให้ต่อมาเพื่อนสาวชาวจีนบินออกนอกประเทศไป แต่หนุ่มเอนเตอร์เทนชาวจีน 3 คน ตำรวจสืบทราบว่าใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้าไทย แต่กลับมาประกอบอาชีพเป็นหนุ่มเอนเตอร์เทนในไทยกว่า 2 ปี ตำรวจจึงผลักดันกลับประเทศ


นอกจากนี้ ตำรวจยังสืบทราบว่าในวันเดียวกัน มีชายชาวจีน 3 คน พร้อมคนขับรถคนไทยอีก 1 คน แอบเอาคีย์การ์ดของผู้เสียชีวิตไปเปิดห้องพักผู้เสียชีวิต พร้อมนำเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของผู้เสียชีวิตไปเผาทิ้ง ตำรวจจึงขยายผลไปคุมตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำให้เสียหายทำลายซ่อนเร้นซึ่งพยานหลักฐาน พร้อมขยายผลผับต้นเรื่องว่านำยามาขายให้นักเที่ยว หรือนักเที่ยวนำมาเอง รวมถึงสาวไปถึงเจ้าของผับว่ามีคนไทยเป็นนอมีนี หรือคนจีนสวมสิทธิเป็นคนไทย หากพบหลักฐานที่มีน้ำหนักเอาผิดได้ก็จะสั่งปิดผับดังกล่าวทันที. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”