ตร.ยานนาวา นำนักเที่ยวจีนส่งตรวจร่างกายก่อนกลับโรงพัก

กรุงเทพฯ 26 ต.ค. – ตร.ยานนาวา ทยอยนำนักเที่ยวทาสยาส่งตรวจร่างกายก่อนกลับโรงพัก พบพฤติกรรมไม่เหมาะสมสูบบุหรี่บนรถควบคุม-ราดน้ำใส่ผู้สื่อข่าว


จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมตรวจค้นอาคาร LEELA หรืออาคารจินหลิง เลขที่ 60-60/1 ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาธร กทม. หลังพบว่ามีการลักลอบเปิดเป็นสถานบันเทิง และค้ายาเสพติดให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติกันอย่างโจ๋งครึ่ม โดยตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนกว่า 237 คน เป็นชาย 111 คน หญิง 126 คน นอกจากนั้นยังพบพนักงานและบุคคลชาวกัมพูชา และชาวไทยในบริเวณอาคารดังกล่าวอีกจำนวนกว่า 29 คน อีกทั้งพบของกลางยาเสพติดจำนวนมาก นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ร.ต.อ.สมยศ บุญณะแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.ยานนาวา ได้ประสานขอสนับสนุนรถควบคุมผู้ต้องหาจากโรงพักใกล้เคียง สังกัด บก.น.6 จำนวน 35 คัน เพื่อนำตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้งสิ้น 266 คน ไปส่งตรวจร่างกายคัดแยกสารเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนนำตัวทั้งหมดกลับมาที่ สน.ยานนาวา เพื่อควบคุมไว้ที่ชั้น 3 ของโรงพัก รวมถึงทางพนักงานสอบสวนได้มีการตรวจยึดของกลางอีกหลายรายการจากสถานที่เกิดเหตุนำมาเก็บรักษาไว้ที่โรงพักด้วย


ด้าน พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ภายหลังจากควบคุมตัวนักเที่ยวที่พบภายในสถานบันเทิงได้ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 200 คน เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีผู้ถูกผู้คุมตัวเป็นจำนวนมาก จึงกระจายไปควบคุมตัวไว้ตามสถานที่ต่างๆ อาทิ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือศูนย์สืบนครบาล และที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู จากนั้นในช่วงเช้าได้นำนักเที่ยวทั้งหมดไปตรวจหาสารเสพติดทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลที่มีเครื่องตรวจอีก 3 แห่ง เพื่อให้ได้ผลการตรวจสารเสพติดที่เป็นทางการไปใช้ในการดำเนินคดีหรือนำเข้าสู่การบำบัด ในเบื้องต้นพบว่ามีนักเที่ยวที่มีสารเสพติดจำนวนประมาณ 104 คน แบ่งเป็นชาย 50 คน และหญิง 54 คน โดยจะควบคุมตัวผู้ที่พบสารเสพติดทั้งหมดกลับมาดำเนินคดีที่ สน.ยานนาวา และจะนำตัวส่งฟ้องต่อศาล หรือเข้าสู่กระบวนการบำบัดภายในวันนี้

ส่วนบรรยากาศที่ สน.ยานนาวา ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่า ได้มีการเตรียมข้าวกล่องและน้ำไว้ให้ผู้ต้องหาที่จะต้องถูกดำเนินคดีจากสถานบันเทิงจำนวนประมาณ 100 ชุด นอกจากนี้ยังมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยเข้ามาดำเนินการดูแลการควบคุมตัวผู้ต้องหา โดยระหว่างที่รถควบคุมผู้ต้องหา ทยอยพากลุ่มผู้ต้องหาเดินทางกลับมาจากสถาบันธัญญารักษ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนที่ สน.ยานนาวา พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาชายชาวจีนหลายคนมีพฤติกรรมก้าวร้าวไม่เหมาะสม มีการสูบบุหรี่บนรถควบคุมผู้ต้องหา และสาดน้ำใส่ช่างภาพ-ผู้สื่อข่าว ที่ไปรอรายงานสถานการณ์ภายในโรงพักด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ควบคุมสถานการณ์ ได้เข้าห้ามปรามแล้ว แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมหยุดพฤติกรรม. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5