22 ต.ค. – ตำรวจเร่งแกะรอยติดตามอาวุธปืนหลวงที่ดาบตำรวจ สภ.ปากเกร็ด นำไปจำนำ-ขายต่อ เชื่อได้ครบ 159 กระบอก ภายใน 1-2 วันนี้ ขณะนี้รู้ตัวคนครอบครองแล้ว เตือนมีความผิดฐานรับของโจร
พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามอาวุธปืนที่ถูกดาบตำรวจเชาวลิต ผบ.หมู่งานธุรการ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นำไปจำนำและขายต่อ เพราะติดหนี้การพนันว่า เบื้องต้นยอดอาวุธปืนที่ได้คืนมายังคงอยู่ที่ 41 กระบอก จาก 159 กระบอก โดยไม่พบปืนเพิ่มจากการตรวจค้น 9 จุด เมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) คาดว่าอาจถูกขายต่อให้บุคคลอื่นอีกทอด ซึ่งเป็นมือที่ 3
ทั้งนี้ อาวุธปืนที่ถูกขโมยจากคลังอาวุธ สภ.ปากเกร็ด รวม 159 กระบอก แยกเป็นปืนยาว 25 กระบอก, ปืนสั้น 134 กระบอก ในส่วนของปืนสั้นแยกเป็นปืนกล็อก 24 กระบอก, ซิกซาวเออร์ 68 กระบอก และลูกโม่ สมิธแอนด์เวสสัน 42 กระบอก
ส่วนอาวุธปืนที่ติดตามกลับคืนมาได้ 41 กระบอก เป็นปืนยาวประเภทเอ็มโฟร์ 2 กระบอก และปืนพกสั้น 39 กระบอก ในส่วนของปืนพกสั้น 39 กระบอกที่ได้คืนมา มากสุดอยู่ในกระเป๋าเดินทางสีแดงเลือดหมูที่มีคนนำมาทิ้งไว้ที่หน้าสโมสรตำรวจ เปิดดูข้างในพบปืนหลวงที่ถูกขโมยไป 25 กระบอก นอกจากนี้ยังมีคนใส่ถุงกระสอบนำมาทิ้งไว้ในพื้นที่ปากเกร็ด อีก 9 กระบอก และไม่ระบุแหล่งที่มา 5 กระบอก ซึ่งอยู่ระหว่างที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ
ตร.เชื่อจะตามปืนหลวงได้ครบใน 1-2 วันนี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่าขณะที่ชุดสืบสวนจะขยายผลและลงพื้นที่เร่งแกะรอยหาเบาะแส ทั้งใน จ.จันทบุรี พื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2, จ.สุพรรณบุรี พื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และเขตดอนเมือง พื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
เบื้องต้นขณะนี้ทราบตัวผู้ซื้อลำดับที่ 2 และ 3 แล้ว ซึ่งจะกดดันให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำอาวุธปืนมาคืน และเชื่อว่าจะสามารถตามยึดคืนอาวุธปืนได้ครบภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนปืนที่ได้มาต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์หลักฐาน เพื่อยืนยันว่าเป็นปืนที่หายไปจริงหรือไม่
ขณะที่การดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีเจตนาหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยปืนหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับบุคคลใด นอกจากดาบตำรวจเชาวลิต ที่ตกเป็นผู้ต้องหา.-สำนักข่าวไทย