ค้น 9 จุด ตามหาปืนที่ตำรวจขโมยไปขาย

กรุงเทพฯ 21 ต.ค. – ชุดตรวจค้นกำลังเข้าปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุดในเช้าวันนี้ เพื่อติดตามอาวุธปืนที่ถูกขโมยไปจากคลังเก็บอาวุธ ของ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กลับคืน และล่าสุดตำรวจได้อาวุธคืนกลับคืนแล้ว 33 กระบอก


ความคืบหน้า ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร เจ้าหน้าที่ธุรการ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหากระทำความผิดลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ ขโมยปืนหลวง เกือบ 100 กระบอก หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.หนองคาย สามารถจับกุมตัวได้ที่จังหวัดหนองคาย ขณะกำลังเตรียมหลบหนีข้ามแดน ถูกคุมตัวมาที่สโมสรตำรวจเมื่อคืนที่ผ่านมา ทันทีที่มาถึงได้คุมตัวเข้าห้องสอบสวนโดยทันที โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เข้าร่วมสอบสวน

ผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เพราะติดหนี้การพนัน โดยเริ่มทำมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทยอยเอาปืนออกมาขายเรื่อย ๆ โดยปืนที่นำออกไปขาย ได้แก่ ปืนกล็อก ปืนเอ็มโฟ ปืนแม็กกาซีนซิกซาวเออร์ โดยเบื้องต้นทราบแหล่งขายแล้ว 9 จุด จะพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน ขอออกหมายค้นให้ได้เร็วที่สุดในพื้นที่ จ.นนทบุรี และ กทม. ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่รับซื้อ หรือรับจำนำ ให้นำปืนมาคืนที่สโมสร โทษหนักจะเป็นเบา หรือไม่อาจจะกันตัวไว้ เป็นพยาน


ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่าเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว มีหน้าที่ดูแลคลังอาวุธปืนโรงพัก เชื่อว่าไม่ได้ทำมาเดือนสองเดือน คาดว่าต้องทำมานานแล้ว ต้องขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ โดย ผกก.สภ.ปากเกร็ด ไล่ตรวจสอบอาวุธปืนจนทราบว่า ปืนหายไปจำนวนมาก ตัวผู้ต้องหาเองหมดปัญญาจะเอาปืนมาคืน จึงหลบหนีไปอยู่แถวชายแดน 7-8 วันแล้ว แต่ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ และเมื่อคืนนี้ ที่สโมสรตำรวจ มีคนนำปืน 27 กระบอก ใส่กระเป๋าเดินทาง สีน้ำตาลมาทิ้งคืนไว้บริเวณสโมสรตำรวจ โดยผู้ที่นำปืนมาทิ้งไว้ ได้โทรแจ้งบอกกับทางเจ้าหน้าที่ให้นำมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน และต้องมีการตรวจพิสูจน์หาผู้ครอบครองต่อไป

แหล่งข่าวยืนยันว่าอาวุธปืนที่หายทั้งสิ้นมีจำนวน 158 กระบอกเท่านั้น เป็นปืนยาว แบบ M4 จำนวน 26 กระบอก และปืนสั้น หรือปืนแบบพกพา 132 กระบอก ส่วนที่เข้าใจครั้งแรกว่าหายไป 160 กระบอก เนื่องจากการตรวจสอบช่วงแรก ตัวเลขของอาวุธปืนที่หายยังไม่นิ่ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำตัว ด.ต.เชาวลิต ผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤตมิชอบ ภาค 1 ที่ จ.สระบุรี วันนี้ (21 ต.ค.). -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ