ขยายผลค้นบ้าน “หรั่ง เทียนทะเล” นำเอกสารไปตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 19 ต.ค.- ตำรวจนครบาลนำกำลังชุดสืบสวนขยายผลบุกเข้าตรวจค้นบ้าน “หรั่ง เทียนทะเล” หรือหรั่ง พระราม 2 หลังมอบตัวคดีพาพวกพร้อมอาวุธปืนนั่งรถตู้หรูบุกยิงพูลวิลล่า พัทยา เบื้องต้นพบเอกสารที่ต้องนำไปตรวจสอบ


พล.ต.ต.โชคชัย งามวงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม และกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 9 เข้าตรวจค้นบ้าน นายจิรโรจน์ วัฒนะ หรือ “หรั่ง เทียนทะเล” ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยกพวกพร้อมอาวุธปืนนั่งรถตู้อัลฟาร์ดป้ายแดงไปจอดที่หน้าพลูวิลล่า พัทยา จังหวัดชลบุรี ก่อนจะบุกเข้าไปด้านใน โดยถืออาวุธปืนเข้าข่มขู่ถามหาบุคคลตามรูปถ่ายในมือถือที่กลุ่มชายฉกรรจ์นำมา แล้วยึดโทรศัพท์มือถือกลุ่มคนที่อยู่ในวิลล่า 18 คน ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อพักผ่อน พร้อมขู่ห้ามแจ้งตำรวจ จากนั้นพาตัวเพื่อนชายในกลุ่ม 5 คน เข้าไปในห้องน้ำ เพื่อถามหาคนรูปอีกครั้ง แล้วใช้อาวุธปืนตีทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ และเมื่อไม่พบเป้าหมายที่ต้องการ คนร้ายก็ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่รถที่จอดอยู่ด้านหน้า แล้วขับรถหลบหนีไป

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา “หรั่ง เทียนทะเล” ผู้ต้องหา พร้อมพวกที่ร่วมกันก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพได้จำนวนหลายคน เข้ามอบตัวกับตำรวจจังหวัดชลบุรีแล้ว 3 คน หลังเกิดเหตุตำรวจได้รับเบาะแสว่า กลุ่มหรั่ง เทียนทะเล มีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติด และมีความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจสีดำ จึงได้ขอศาลออกหมายค้นเข้าตรวจสอบขยายผลภายในบ้านของหรั่ง เทียนทะเล ซอยท่าข้าม 28 ย่านเทียนทะเล พบว่าเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ซึ่งระหว่างที่ตำรวจกระจายกำลังตรวจค้นภายในบ้านพบกับแม่และแฟนสาวของหรั่ง ก่อนที่ชุดสืบสวนจะกระจายกำลังกันค้นทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อหาหลักฐานขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ทั้งด้านบนและด้านล่าง


ภายหลังการเข้าตรวจค้น พล.ต.ต.โชคชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านที่เกี่ยวข้องในคดี เบื้องต้นพบเอกสารที่ต้องนำไปตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดียาเสพติดกลุ่มแก๊งหรือไม่ และจะตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้นำกำลังเข้าตรวจสอบขยายผล

จากการตรวจสอบประวัติไม่พบเคยต้องโทษมาก่อน เป็นคนใช้ชีวิตปกติ ครอบครัวเป็นคนทำมาหากิน แต่ก็ขอตรวจสอบเบื้องลึกพฤติการณ์ต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน ส่วนทางญาติหรือผู้ต้องหาจะให้การว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็เป็นสิทธิ หากตำรวจพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

ขณะที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม ระบุว่ากลุ่มของนายหรั่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของชายฉกรรจ์ที่นำปืนคล้ายอาวุธสงครามเข้าทำร้ายและปล้นทรัพย์พ่อค้ากัญชาย่านพระราม 2 มาก่อนหน้านี้แต่อย่างใด


เมื่อสอบถามนางแอน อายุ 29 ปี แฟนของหรั่ง เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุมีเพื่อนขับขี่รถจักรยานยนต์มารับแฟนของตนเองออกไปจากบ้าน แต่ไม่ทราบว่าไปไหน จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าไปก่อเหตุ ที่ผ่านมาไม่พบว่าแฟนของตนเองมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนเพื่อนของแฟนมีหลายกลุ่ม จึงไม่ทราบว่ารถตู้อัลพาร์ดเป็นของใคร แต่ยืนยันว่าไม่ใช่รถแฟน เพราะไม่ได้มีฐานะมีเงินมากมายขนาดนั้น ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบว่าแฟนไปมีปัญหากับใคร และไม่รู้จักคนชื่อมิ้น ที่กลุ่มแฟนไปตามหาจนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ส่วนฉายาที่เรียกแฟนตนเอง มีทั้งหรั่ง เทียนทะเล และหรั่ง พระราม 2 มาจากเพราะว่าแฟนตนเองเป็นคนหน้าตาดีและเป็นเน็ตไอดอล จึงมีคนตั้งฉายาให้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเป็นหัวหน้าหรือแก๊งมาเฟียแต่อย่างใด

ขณะที่นางกี้ นามสมมติ อายุ 62 ปี แม่ของหรั่ง เปิดเผยว่า ลูกชายประกอบอาชีพค้าขายหลายอย่าง ปกติแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน แต่ถ้าไปนอกบ้านแล้วตนเองไม่ทราบว่าพฤติกรรมของลูกเป็นอย่างไร และไม่พบว่าลูกมีเงินหรือทรัพย์สินมีค่ามาก่อน ทุกวันนี้ตนเองยังต้องเป็นคนจ่ายค่าน้ำค่าไฟที่บ้านเอง จึงมั่นใจว่าลูกของตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติดแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ