กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – ตำรวจเตรียมกำลัง 600 นาย คอยอำนวยความสะดวก ผู้แทนต่างประเทศในการประชุมเอเปค พร้อมจัดซักซ้อมการปฏิบัติให้เป็นไปตามพิธีการทางการทูต
พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ดูแลงานจราจร ได้เข้าเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมและมอบหมายภารกิจให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่รถนำขบวนภารกิจการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกว่า 600 นาย ที่ห้องประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ดูแลความปลอดภัยอำนวยความสะดวกการจราจร ในวันนี้จึงมีประชุมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับรัฐมนตรีต่างประเทศด้านเศรษฐกิจ โดยมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ รวมทั้งวางแผนการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับพิธีการทางการทูต เช่น การเรียงลำดับขบวนด้วยตัวอักษร ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ ได้กำชับให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เน้นการซักซ้อมประชุมร่วมกันของเจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติ และฝ่ายสนับสนุน ทั้งหมด 600 นาย โดยให้ตัวแทนของทางกระทรวงต่างประเทศร่วมชี้แจงภารกิจ รวมทั้งมีตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ตำรวจสื่อสารวางระบบให้ผู้เข้าร่วมประชุมใช้งาน
พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่นำขบวนรัฐมนตรีเศรษฐกิจ รวมทั้งคู่สมรส ประกอบด้วย ตัวแทนของ 24 ประเทศ และองค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอีก 8 องค์กร จึงต้องมีการชี้แจงสร้างความเข้าใจภารกิจแต่ละหน้าที่ ก่อนทำการฝึกอบรมผู้ทำหน้าที่ขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์นำขบวน รวมถึงการซักซ้อมการเข้าที่หมาย เส้นทางที่ใช้ และการจอดรถ ให้ผู้ปฏิบัติงานต้องรู้ที่หมาย รู้เส้นทาง รู้จุดจอดรถ รวมถึงแผนเผชิญเหตุ ยืนยันว่าภารกิจครั้งนี้ตำรวจมีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ จนถึงขณะนี้มีความพร้อมแล้วร้อยละ 80 ส่วนที่เหลือคือการเตรียมพร้อมอุปกรณ์และยานพาหนะ
ส่วนช่วงเวลาสำคัญในภารกิจนี้ คือ ช่วงวันที่ 17 พ.ย. ที่ตัวแทนประเทศต่างๆจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด ขณะที่ในช่วง 18-19 พ.ย. จะเป็นช่วงของการประชุมหารือในระดับต่างๆ ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญในการจัดการบริหารการจราจรบนถนนพระราม 4 อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมด้านปลอดภัย และการเดินรถ
โดยจะมีการซ้อมใหญ่จะมีช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนอีกครั้ง ก่อนฝ่ายจราจรจะประชาสัมพันธ์เส้นทางประชาชนว่าควรหลีกเลี่ยงเส้นทางและช่วงเวลาที่มีการใช้เส้นทางในการประชุมดังกล่าว เพื่อป้องกันให้ประชาชนได้รับผลกระทบทางจราจรให้น้อยที่สุด.-สำนักข่าวไทย
