กรุงเทพฯ 5 ต.ค. – สภาทนายความฯ ให้กรรมการสภาทนายความพื้นที่ภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา เข้าไปช่วยดูแลความคืบหน้าคดีเด็กอายุ 15 ปี ขับรถ BMW ชนบัณฑิตวิศวะเกียรตินิยม เสียชีวิต หน้ามหาวิทยาลัยฯ ระบุการขอชดใช้ค่าเสียหายเพียง 250,000 บาท มองว่าน้อยเกินไป
นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสมาคมสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเด็กอายุ 15 ปี ขับรถ BMW ชนบัณฑิตวิศวะเกียรตินิยม เสียชีวิตหน้ามหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการไปยังกรรมการสภาทนายความพื้นที่ภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ให้ลงไปดูแลเรื่องความคืบหน้าของคดี และได้สั่งการไปยังกรรมการสภาทนายความพื้นที่ภาค 6 นครสวรรค์ ประสานไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อช่วยเหลือบุพการีในทางคดี โดยให้กรรมการสภาทนายทั้ง 2 พื้นที่ ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คดีเดินไปในทิศทางที่เป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม กรรมการสภาทนายความพื้นที่ภาค 6 ได้รายงานมาว่า ได้ติดต่อสอบถามไปยังบิดา-มารดา ของบัณฑิต ผู้เสียชีวิต แต่ทั้งสองท่านยังไม่พร้อมให้ข้อมูลใดๆ กับสภาทนายความ เนื่องจากยังอยู่ในภาวะโศกเศร้าและอยู่ในช่วงจัดงานศพบุตรชาย คงต้องรอให้งานศพเสร็จสิ้นเสียก่อน คาดว่าคงไม่เกินสัปดาห์หน้าจะสามารถพูดคุยรายละเอียดกับบิดา-มารดาของผู้เสียชีวิตได้ว่าจะให้สภาทนายความฯ ช่วยเหลืออย่างไรบ้าง และต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าเสียหายที่ผู้ปกครองเด็ก 15 เจรจาขอชดใช้เพียง 250,000 บาท ส่วนตัวมองว่าน้อยเกินไป เพราะตามกฎเกณฑ์การเรียกร้องค่าอุปการะบิดา มารดานั้น ต้องคำนวณจากอายุของผู้เสียชีวิต ประกอบคุณสมบัติของผู้เสียชีวิต หรือรายได้ของผู้เสียชีวิตจากนั้นนำมาคำนวณเป็นค่าเลี้ยงดูบุพการี โดยคิดจากเกณฑ์อายุเฉลี่ยของคนไทยที่ 80 ปี แต่จะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลเป็นหลัก
ส่วนกรณีที่คดีนี้จะไปซ้ำรอยคดีแพรวาหรือไม่ ทางด้านของนายวิเชียร กล่าวว่า ในทางแพ่งเหมือนกัน แต่ในเรื่องของ ป.วิอาญา อาจต้องดูกันอีกที และส่วนตัวบอกว่าคดีนี้ การเจรจาเรียกร้องค่าเสียหาย ควรจบในชั้นพนักงานสอบสวน จะดีกว่าไปจบในชั้นศาล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายเอง. -สำนักข่าวไทย