กรุงเทพฯ 6 ก.ย.-“ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต” เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พอใจภาพรวมการชันสูตรศพ “น้องจีฮุน” ถูกลืมในรถ สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอาการฮีทสโตรก ย้ำไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย
เมื่อเวลา 11.40 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อม นพ.ศราวุฒิ สุจริตธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนิติเวช สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แถลงผลหลังเข้าพบ พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อติดตามผลการชันสูตรศพของ “น้องจีฮุน” ที่เสียชีวิตหลังครูลืมไว้บนรถตู้รับส่งของโรงเรียนใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี
ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าวว่า แม่ผู้เสียชีวิตต้องการให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบกระบวนการผ่าพิสูจน์ของสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ซึ่ง สาเหตุการเสียชีวิตมี อยู่ 2 สาเหตุหลัก คือ เสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมหรือไม่ และเสียชีวิตจากอาการฮีทสโตรกหรือไม่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาร่วมสังเกตการณ์
ทั้งนี้ โดยภาพรวมพอใจผลการชันสูตรของทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งการทำงานของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ มีทั้งหมด 5 ขั้นตอน คือ 1.การบันทึกเสื้อผ้า 2.ตรวจสภาพร่างกายภายนอก 3.ตรวจบาดแผลนอกร่างกาย 4.เก็บวัตถุพยานเช่น เลือด ช่องคลอด ทวารหนัก เล็บ ชิ้นเนื้อ อาหารในกระเพาะอาหาร เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุการเสียชีวิต และ 5.การผ่าพิสูจน์ร่างกาย เบื้องต้นพบร่องรอยการพกช้ำตามแขนและใบหน้า รวมทั้งหมด 9 จุด ไม่พบกระดูกหัก ไม่มีการข่มขืน ไม่มีร่องรอยการบีบคอ พบปอดมีจุด ที่สำคัญพบว่าเซลล์ตับมีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ซึ่งปกติตับจะเป็นสีแดงหรือชมพู จึงคาดว่าสาเหตุการเสียชีวิตอาจเกิดจากภาวะฮีทสโตรก
ส่วนรอยเปื้อนบนชุดนักเรียนเกิดจากการที่น้องจีฮุนลงไปนอนบนพื้นรถที่เปื้อนฝุ่น โดยแพทย์ระบุว่า ศพอยู่ในลักษณะคว่ำหน้า ทำให้เลือดตก จนอาจทำให้เกิดแผลถลอกที่แก้มซ้าย ขณะที่เยื่อบุตาไม่พบเลือดออก เช่นเดียวกับสมอง เพราะหากพบก็จะคาดว่าอาจเกิดจากการกระแทกได้ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต คาดเกิดจากภาวะฮีทสโตรก พร้อมกันนี้เร่งรัดขอผลการผ่าพิสูจน์ศพ และผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งคาดว่าจะได้รับในวันที่ 15 ก.ย.นี้ โดยศพน้องจีฮุน ตอนนี้ยังอยู่ในความดูแลของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต หากครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตก็จะนำไปฌาปนกิจต่อไปได้
ด้าน นพ.ศราวุฒิ อธิบาย ถึงอาการฮีทสโตรกในเด็กนั้น เกิดจากการควบคุมอุณหภูมิในสมองของเด็กที่ยังไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ จึงทำให้เด็กทนต่อความร้อนได้น้อยกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ขณะที่ผู้ใหญ่อาจใช้เวลา 15 นาทีขึ้นไป ซึ่งภาวะฮีทสโตรก จะทำให้รู้สึกสับสน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ชัก และหมดสติ กระทั่งร่างกายล้มเหลว ซึ่งภาวะฮีทสโตรกสามารถตรวจพบเลือดออกตามจุดต่างๆ ของร่างกายได้เช่นกัน ดังนั้น การแก้ปัญหา จึงควรตรวจเช็กเด็กก่อนลงจากรถทุกครั้ง
สำหรับบาดแผลพกช้ำตามร่างกายน้องจีฮุนตามแขนและขานั้น สันนิษฐานว่าอาการฮีทสโตรกอาจทำให้น้องจีฮุนฟาดแขนและขาไปในรถ เพราะตำแหน่งของร่างกายเข้ากันได้กับส่วนต่างๆ ภายในรถ ทั้งนี้ ยังต้องนำข้อมูลการพิสูจน์หลักฐานของตำรวจมาประกอบกันอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย