กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – “พล.ต.ท.ภาณุรัตน์” สั่ง น.1 เร่งหาตัวผู้ก่อเหตุ กรณีนักเรียนยกพวกตีกัน เจ็บ 2 ราย กำชับ ผบก.น.6 ลงพื้นที่ เข้าพบผู้บริหาร 2 สถาบัน เพื่อวางแนวทางป้องกันเหตุ
วันที่ 25 ส.ค.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง จตช. (ช่วยเหลืองาน ปป.) เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 17.40 น. ได้รับรายงานเหตุนักเรียนตีกัน คู่กรณีเป็นนักศึกษาอุเทนถวาย และเทคโนโลยีปทุมวัน เหตุเกิดที่ลานกีฬาหน้าอาคารนิมิบุตร สนามศุภชลาศัย เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นนักศึกษาอุเทนถวาย
เหตุเกิดขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ปทุมวัน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป้องกันเหตุบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าอาคารนิมิบุตร และจุดเสี่ยงตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการ ก็พบว่ามีกลุ่มนักศึกษาเทคโนฯ ปทุมวัน ประมาณ 60 คน วิ่งกรูมาจากสถาบัน มุ่งหน้ามายังลานกีฬาหน้าอาคารนิมิบุตร และมาเจอกับนักศึกษาอุเทนถวาย ประมาณ 50 คน ที่วิ่งลงมาจากลานใบบัวสกายวอล์ก เมื่อทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน ก็มีการตะโกนด่าทอและท้าทาย ก่อนจะเข้าตะลุมบอนทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้เข้าห้ามปรามและระงับเหตุ พร้อมทั้งวิทยุขอกำลังเสริมจากพื้นที่ สน.ข้างเคียง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 นาย เข้าระงับเหตุ ภายหลังจากกันคู่กรณีทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกันได้ นักศึกษาทั้งสองสถาบันก็ต่างหลบหนีแยกย้ายกลับเข้าสถาบันตัวเอง
ภายหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีนักศึกษาอุเทนถวาย 2 ราย ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและลำตัว จึงประสานกู้ชีพเข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยอีกว่า ไม่ค่อยได้เห็นเหตุการณ์นักศึกษา 2 สถาบัน โดยเฉพาะอุเทนถวาย และเทคโนฯ ปทุมวัน ยกพวกตะลุมบอนกันมานานมากแล้ว โดยได้สั่งการ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ให้เร่งรัดติดตามคดี นำตัวผู้กระทำผิดมาให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อมีผู้กระทำผิด จะต้องถูกลงโทษอย่างเฉียบขาด พร้อมกำชับให้ ผบก.น.6 ต้องลงมาด้วยตนเอง เข้าประสานกับผู้บริหารของทั้ง 2 สถาบันการศึกษา เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหา อาจต้องใช้ยุทธวิธีเดิมๆ ที่เคยทำในหลายๆ ปีมาก่อน ระดมปิดล้อมตรวจค้นทั้ง 2 สถาบัน ซึ่งการตะลุมบอนกัน ส่วนใหญ่สาเหตุเกิดจาก การรวมกลุ่มกันของนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน และมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะข้ามแดนเข้ามาในเขต Safe zone หมายถึงว่า ทั้ง 2 สถาบันจะทำความตกลงกันเอง แบบเป็นที่รู้กันว่า Safe zone ห้ามสถาบันใดสถาบันหนึ่งเข้ามาในเขตนี้
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ ผบช.น. และ ผบก.น.6 ลงไปพูดคุยกับผู้บริหารสถาบัน นำแนวทางการแก้ไขปัญหาเดิมที่เคยใช้แล้วเกิดประสิทธิผล คือ การกำหนด Safe zone ควบคู่กับการปิดล้อมตรวจค้น. – สำนักข่าวไทย