กรุงเทพฯ 22 ส.ค.- ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับกงสุล 18 ประเทศ ประชุมพรุ่งนี้ (23 ส.ค.) หารือเชิงปฏิบัติการถึงมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงไฮซีซั่น (ต.ค.65-ก.พ.66)
พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ในวันอังคารที่ 23 ส.ค.นี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้แทนสถานทูต 18 ประเทศ อันประกอบด้วย ออสเตรเลีย เบลเยียม สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก โมร็อกโก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สโลวาเกีย และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศจากกลุ่มทวีปยุโรปถึง 15 ประเทศ รวมทั้งสิ้นมากกว่า 40 คน จะหารือร่วมกันในลักษณะการประชุมเชิงปฏิบัติการถึงมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงไฮซีซั่น (ต.ค.65-ก.พ.66) ที่จะถึงนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดยผู้แทนหน่วยงานตำรวจทั้งสองหน่วยจะนำเสนอมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติที่จะแฝงมาในรูปแบบของนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้ามาในประเทศได้อย่างเด็ดขาด แม้หากหลุดรอดเข้ามาได้ ก็จะมีมาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศในการสืบสวน ติดตาม ผลักดันจับกุมส่งดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากการหารือจะมีการพาผู้แทนสถานทูตดังกล่าวสำรวจความพร้อมของการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการที่จะถึงนี้ว่า เป็นแนวคิดร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและผู้แทนสถานทูตทั้งหมด โดยได้รับความร่วมมือสนับสนุนอย่างดีจากสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมการรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเที่ยวประเทศไทยในช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ โดยแนวความคิดนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการเห็นการท่องเที่ยวของไทยเป็นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและมีความยั่งยืน สอดคล้องต่อนโยบายขององค์การการท่องเที่ยวโลก หรือ UNWTO ในเรื่องของ Sustainable Tourism และสอดคล้องต่อมาตรการสากลว่าด้วยการคุ้มครองนักท่องเที่ยว หรือ International Code for the Protection of Tourists ที่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติแล้ว เมื่อปลายปีที่แล้ว
โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยังกล่าวอีกว่า กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ แต่จะมีมาตรการและความร่วมมือออกมาอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้นานาชาติเห็นว่า ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะปรับตัวและปรับมาตรการทั้งหมดให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยมีคุณภาพ ปลอดภัย และมั่นคง ซึ่งผลการหารือจากการประชุมเชิงปฏิบัติการเป็นอย่างไร จะนำเรียนสื่อมวลชนให้ทราบต่อไป. -สำนักข่าวไทย