ยธ. 19 ส.ค.- ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 ราย ร้องกระทรวงยุติธรรมช่วยติดตามรถคืน หลังนำรถยนต์ไปค้ำประกันเงินกู้กับเพจในเฟซบุ๊ก แต่เมื่อจ่ายเงินคืนครบแล้ว กลับไม่ได้รถคืน ด้านเลขาฯ รมว.ยุติธรรม ประสานยุติจังหวัด และให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่ตรวจสอบพรุ่งนี้
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พร้อมทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายกว่า 20 ราย เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม หลังถูกแก๊งหลอกปล่อยเงินกู้ในภาคตะวันออกโกงไม่คืนรถที่นำไปค้ำเงินกู้ไว้ โดยหนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนเองมีเหตุจำเป็นที่ต้องนำรถไปค้ำประกัน เนื่องจากช่วงโควิดที่ผ่านมา รายรับไม่เพียงพอกับรายจ่าย ซึ่งได้ไปเจอกับบริษัทเงินกู้นี้ผ่านทางเพจในเฟซบุ๊ก โดยมีความน่าเชื่อถือ มีผู้ที่เอารถไปค้ำประกันเงินกู้ไว้ และได้รับคืนจริง ตนจึงนำรถไปค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 80,000 บาท ทางบริษัทโอนเงินให้ 72,000 บาท โดยหักดอกเบี้ย 8,000 บาท และหลังจากนั้นตนก็จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน เดือนละ 8,000 บาท ซึ่งเดือนล่าสุดตนชำระดอกเบี้ยช้าไปเพียง 2 ชั่วโมง ทางบริษัทก็บอกว่า ตนจำเป็นต้องจ่ายเงิน 4,500 บาท เพื่อซื้อสัญญาคืน ไม่เช่นนั้นรถตนจะหลุด
จนเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนหาเงินไปไถ่รถออกมาได้ครบจำนวน และมีการนัดส่งคืนรถในวันที่ 22 มิ.ย. แต่เมื่อถึงเวลาทางบริษัทก็จะอ้างบ่ายเบี่ยง ขอเลื่อนนัดคืนรถ โดยมีทั้งเลื่อนทั้งแบบวันต่อวันไปเรื่อยๆ เลื่อนเป็นสัปดาห์ หรือบางครั้งก็เลื่อนไป 15 วัน
นอกจากนี้เวลาที่นัดส่งมอบรถกัน ก็จะนัดเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น โดยให้เอาไปส่งที่ที่ทำการบริษัทในพื้นที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ส่วนสาเหตุที่บริษัทอ้างในการไม่ส่งคืนรถ ก็มีทั้งบอกว่าคนส่งรถไม่พอ, พนักงานติดโควิด, ฝนตก, น้ำท่วม ซึ่งจนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่ทราบว่ารถตนอยู่ที่ไหน บริษัทไม่ยอมบอก บอกแต่ว่าอยู่ในโกดัง อยู่กับนายทุนใหญ่ ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่ารถของตนเองยังอยู่กับบริษัทนี้จริงหรือไม่ ส่วนเพจของบริษัทตอนนี้ก็ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ปกติ
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหาย ทราบว่าตอนนี้มีรถที่ถูกนำไปแล้วไม่คืนกว่า 100 คัน ในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการฉ้อโกงเกิดขึ้นหลายคดี ตนจึงขอฝากกระทรวงยุติธรรมให้พิจารณาการเพิ่มอัตราโทษคดีฉ้อโกง เพราะกลุ่มมิจฉาชีพไม่เกรงกลัวกฎหมายข้อนี้ และเชี่ยวชาญในการหลบเลี่ยงกฎหมายด้วย
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้ประสานไปยังยุติธรรมจังหวัด และจะให้เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่ไปในวันพรุ่งนี้ เพื่อดำเนินการติดตามกับบริษัทดังกล่าวว่ามีเหตุจำเป็นอะไรจึงไม่ส่งมอบรถคืนตามกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งการรับจำนำรถแล้วไม่ส่งคืน ถือว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานยักยอกทรัพย์ มีอัตราโทษไม่ต่ำกว่า 3 ปี จึงขอฝากไปยังบริษัทดังกล่าวว่าหากไม่คืนรถให้ผู้เสียหาย จะต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย