ซิดนีย์ 1 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียขยายระยะเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ออกไปอีก 3 สัปดาห์ ในขณะที่หันมามุ่งเน้นเรื่องการฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างเร่งด่วนและละทิ้งยุทธศาสตร์ในการหยุดยั้งการระบาดเพื่อให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นศูนย์
นายแดเนียล แอนดริวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ตั้งธงจะลดมาตรการเข้มงวดต่าง ๆ เมื่อประชาชนวัยผู้ใหญ่ในรัฐนี้ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เขาหวังว่าจะสามารถทำได้สำเร็จภายในวันที่ 23 กันยายนเป็นอย่างเร็ว โดยพิจารณาจากอัตราการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในขณะนี้ นายแอนดริวส์ กล่าวว่า ขณะนี้เห็นได้ชัดว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น หลังจากการล็อกดาวน์มานานเกือบ 1 เดือน ก็ไม่สามารถกำจัดการระบาดได้ การล็อกดาวน์ในนครเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรียมีกำหนดจะสิ้นสุดในวันพฤหัสบดี มุขมนตรีของรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ขณะนี้จะเป็นการซื้อเวลาเพื่อให้โครงการฉีดวัคซีนดำเนินไปให้ได้อย่างรวดเร็ว ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรัฐวิกตอเรียเพิ่มขึ้นจาก 76 ราย เป็น 120 รายในวันนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่นี้ มี 100 คน ทำกิจกรรมในชุมชนตามปกติโดยที่มีการติดเชื้อไวรัสแล้ว ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีเมืองเอกคือนครซิดนีย์ ปรับเลื่อนวันที่เป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปให้ได้ร้อยละ 70 มาเป็นกลางเดือนตุลาคม จากเดิมที่กำหนดไว้ช่วงปลายเดือนตุลาคม ทางด้านนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน กล่าวต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า ชาวออสเตรเลียจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีอิสระจากการล็อกดาวน์ เขาระบุว่า ออสเตรเลียจะสามารถอยู่ร่วมกันกับไวรัสนี้.-สำนักข่าวไทย