ดีเดย์! มาตรการคุมเข้ม 10 จังหวัด

28 มิ.ย.-เริ่มแล้ววันนี้ (28 มิ.ย.) มาตรการคุมเข้มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด หลายพื้นที่ตั้งด่านคัดกรอง ขณะที่ กทม. คุมเข้มแคมป์คนงาน พร้อมตั้งด่านตรวจ 6 จุด


เริ่มแล้ววันนี้ (28 มิ.ย.) หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประกาศกำหนด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิมมี 4 จังหวัด ประกาศใหม่เพิ่มเป็น 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สงขลา สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

สาระสำคัญหลักๆ คือ ปิดแคมป์คนงานใน กทม. และปริมณฑล หยุดก่อสร้าง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน อย่างน้อย 1 เดือน และตรวจสอบทุกโรงงานใน กทม. และปริมณฑลให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ หรือ Bubble and Seal เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาหาร เครื่องดื่ม ซื้อกลับบ้านเท่านั้น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ปิด 21.00 น. ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเกิน 20 คน ควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน ให้ผ่านเข้าออกได้เฉพาะแรงงานที่ได้รับอนุญาต ส่วนประชาชนทั่วไปให้เดินทางเท่าที่จำเป็น


กทม.ตั้งจุดตรวจสกัดเข้ม  6 จุด

ในส่วนของ กทม. ตั้งด่านตรวจเข้มคัดกรองโควิด 6 จุด ได้แก่ 1.บริเวณใต้สะพานข้ามแยกมหานคร ถนนสุวินทวงศ์ ขาออก 2. ตรงข้ามร้านอาหารครัวเจ้ง๊อ ถนนบางนาตราด ขาออก 3.ใต้สะพานข้ามแยกพุทธมณฑล สาย 3 ถนนบรมราชชนนี ขาออก 4. หน้าสำนักงานเขตหนองแขม ถนนเพชรเกษม ซอย 70 ขาออก 5. หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก กม.4.5 ถนนพระราม 2 ขาออก และ 6. บริเวณหน้าสถานีรถไฟดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก โดยใช้กำลังตำรวจ 4 นาย ทหาร 4 นาย เทศกิจ 2 นาย ต่อจุดต่อผลัด เริ่มตั้งแต่ 16.00 น. วันนี้

ยะลาตั้งด่านตรวจคุมเข้มเข้า-ออก


ไปดูบรรยากาศในจังหวัดคุมเข้มสูงสุดตามประกาศราชกิจจา ที่จังหวัดยะลา มีเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานสาธารณสุข ร่วมตั้งด่านตรวจเข้มเส้นทางเข้าตัวเมืองยะลา โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างยะลา-ปัตตานี โดยผู้ที่จะเดินทางเข้าจังหวัดยะลา จะต้องแสกน QR Code (YALA SAFE ALERT) ส่วนผู้ที่มีเหตุจำเป็นตามประกาศ ให้แจ้งความประสงค์ต่อทางเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ เพื่อขอลงบันทึกประวัติ ทำหนังสือรับรองอนุญาตให้เดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดยะลา

คนสงขลาแห่ขอเอกสารขออนุญาตเดินทาง

ส่วนที่จังหวัดสงขลา มีประชาชนไปขอเอกสารรับรองความจำเป็นเดินทางออกนอกจังหวัดกันตั้งแต่เช้า ส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน นักเรียนนักศึกษา ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา บางคนยังมีปัญหาเรื่องเอกสาร ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจบอกถึงขั้นตอนต่างๆ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจความจำเป็นเพื่อป้องการโควิด

เชียงใหม่ตั้งด่านคุมเข้ม 2 ชั้นก่อนเข้าเมือง

ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการตั้งด่านตรวจเข้มบนเส้นทางหลักถนนสายซูเปอร์ไฮเวย์ ต้องผ่านด่านแรกที่จุดตรวจอำเภอสารภี โดยเจ้าหน้าที่จะให้สแกน คิวอาร์โคด CM ชนะ และให้กรอกข้อมูลแบบฟอร์มการเดินทาง จากนั้นให้นำมาส่งกับเจ้าหน้าที่บริเวณด่านตรวจชั้นที่ 2 บริเวณใต้ทางลอดสะพานดอนจั่น อำเภอเมือง เพื่อป้องกันคุมเข้มบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม

เร่งฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่

ที่เชียงใหม่ตอนนี้ ยังเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยวันนี้ (28 มิ.ย.) ทางจังหวัดได้มีพิธีมอบเข็มกลัด I’m vaccinated ให้สำหรับบุคลากรการท่องเที่ยว ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนการเตรียมพร้อมเปิดท่องเที่ยวแซนบ็อกวันที่ 1 ตุลาคุมนี้ นางละเอียด บุ้งสีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนจะสร้างความเชื่อมั่นได้ ทุกคนต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่รายเล็กพร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเมื่อมีความต้องการเข้ามา

คุมเข้มแคมป์คนงาน กทม.

ไปดูอีกด้านที่มีการคุมเข้มเป็นพิเศษ คือ แคมป์คนงานใน กทม. วันนี้ ทีมข่าวสำนักข่าวไทยตระเวนสำรวจดูบรรยากาศแคมป์คนงานในหลายพื้นที่ พบว่า เงียบเหงาไม่ต่างกัน อย่างที่ใกล้ๆ ช่อง 9 mcot ถนนศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า วันนี้มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ตั้งจุดตรวจโดยใช้แผงเหล็กกั้นสกัดดูแลการคัดกรองบุคคลอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้คนงานเข้าออกพื้นที่เด็ดขาด ด้านนอกมีรถบรรทุกจอดเรียงรางนับสิบคัน เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยคนงาน ให้ข้อมูลว่า ปกติจะมีคนงานบางส่วนไปๆ มาๆ แต่เมื่อมีคำสั่งดังกล่าว ตอนนี้คนงานก็อยู่แต่ในห้องพักชั่วคราว และรอคำสั่งจากบริษัทว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

เช่นเดียวกับอีกหลายๆ แคมป์ ที่วันนี้ทีมข่าวได้ไปสำรวจดู มีการล้อมรั้วสังกะสีรอบบริเวณ มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ตั้งจุดตรวจคัดกรองเข้มด้านหน้าประตู ห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าออกโดยเด็ดขาด บางแคมป์มีตัวแทนจากบริษัทมาพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มคนงานต่างด้าวเพื่อแจ้งข่าวการหยุดงานชั่วคราว การจัดส่งอาหาร

ส่วนที่มีการโพสต์ในโซเชียล กรณีหญิงแรงงานต่างด้าวท้องแก่ 8 เดือน ใกล้คลอดร้องขอความช่วยเหลือ วันนี้ ทีมข่าวได้โทรสอบถามหญิงคนดังกล่าว เล่าว่า เป็นคนงานชาวกัมพูชาพักอาศัยอยู่ในแคมป์คนงานย่านวัดไผ่ตัน ซอยพหลโยธิน15 ซึ่งเป็นห่วงลูกในท้องมาก ตอนนี้ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่แล้ว หากมีอาการเจ็บท้องให้รีบแจ้ง จะมีคนมารับไปโรงพยาบาลทันที

ด้านสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ประเมินระยะเวลา 1 เดือนหยุดงานก่อสร้าง ส่งผลกระทบทั้งวงการกว่าพันล้านบาท              เสนอรัฐช่วยเหลือขยายสัญญาก่อสร้างและผ่อนผันให้ทำงานประเภทความปลอดภัย โดยอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ประมาณ 8% ของจีดีพี เป็นอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและส่งออก มีการจ้างงานจำนวนมาก มีห่วงโซ่ซัพพลายเชน (Supply chain) หลากหลาย ทั้งผู้รับเหมารายย่อยชนิดต่างวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้าง และโลจิสติกส์ที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง มองว่าธุรกิจดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างมากในวงกว้างและจะมีการชะลอตัวลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]