สธ.7พ.ค.-“อนุทิน” เผยที่ประชุม คกก.โรคติดต่อ เห็นชอบขยายการฉีดวัคซีนโควิด-19 วัยแรงงานคู่ขนานกับผู้สูงอายุ เริ่มฉีด มิ.ย.นี้ โดยให้รวมกลุ่มส่งรายชื่อประสานประกันสังคม และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พร้อมเผยลดค่าปรับไม่สวมหน้ากาก จับปรับไม่เกิน 1,000 บาท
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2564 ว่า ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีการกระจายวัคซีนฉีดจำนวนมาก ดังนั้นคณะกรรมการฯมีมติ 3 เรื่อง คือ
1.กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า ภาคเอกชน จะมาร่วมในการฉีดวัคซีนในประชากรวัยแรงงานรวม 16 ล้านคน โดยมีสํานักงานประกันสังคม และทางจังหวัดเป็นผู้รวบรวมจำนวนและรายชื่อแรงงานที่จะรับวัคซีนในโอกาสต่อไป
นอกจากนี้ยังจะมีการเพิ่มจุดฉีดวัคซีน ที่นอกเหนือจากสถานพยาบาลของรัฐ ในกรุงเทพฯ 82 แห่ง และต่างจังหวัดประมาณ 300 แห่ง โดยคุณสมบัติเบื้องต้นจะต้องมีการดูแลในเรื่องของระบบสุขาภิบาล เรื่องการระบายอากาศ มีระบบการเฝ้าระวังอาการหลังการฉีด 30 นาที และการให้การช่วยเหลือหากกรณีมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น อาทิ ตั้งในโรงงาน ศูนย์การประชุม ลักษณะคล้ายกับโรงพยาบาลสนาม อนาคตอาจจะมีการดำเนินการฉีดผ่านรถโมบาย
2.คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบแนวทางในการฉีดวัคซีนของซิโนแวค ให้กับผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางการแพทย์ เนื่องจากผลการศึกษาของต่างประเทศจีนมีความชัดเจนมากขึ้นแล้ว จากนี้ จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไปจึงจะดำเนินการฉีดในกลุ่มที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้
3.คณะกรรมการฯ มีความเห็นชอบให้ออกอนุบัญญัติตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ในเรื่องการเปรียบเทียบปรับกรณีไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเวลาออกนอกเคหสถาน โดยจะมีการอนุโลม ยกเว้น และการลดค่าปรับตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนแต่ยังยืนยันว่าขอความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเวลาต้องออกนอกบ้านหรือไปในที่ที่มีคนจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งเจ้าพนักงานตามกฎหมายเพิ่มเติมคือข้าราชการสังกัดกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การฉีดวัคซีนในกลุ่มวัยแรงงาน จะทำคู่ขนานกับผู้สูงอายุ เนื่องจากขณะนี้การลงทะเบียนฉีดวัคซีนในหมอพร้อม มีจำนวนไม่มาก โดยคาดว่าจะเริ่มฉีดในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งในส่วนของการฉีดจะให้ผู้ประกอบการรวมกลุ่มนัดหมายจากนั้นกำหนดวันฉีด ส่งเรื่องมายังประกันสังคมเพื่อประสานกระทรวงสาธาณสุข
ส่วนเรื่องค่าปรับที่มีการหารือการคร่าวๆ จะแบ่งเป็นการกระทำผิดครั้งแรกปรับไม่เกิน 1,000 บาท หากมีการกระทำผิดซ้ำจะปรับตั้งแต่ 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 10,000 บาท และถ้ายังมีการกระทำผิดอีกก็จะปรับในหลักหมื่นแต่ไม่เกิน 20,000 บาท อย่างไรก็ตามในรายละเอียดจะต้องมีการหารือเพื่อวางโครงร่างที่ชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้ การจับปรับไม่ได้หวังเงินทองของประชาชน แต่เพื่อเป็นการป้องปรามให้ประชาชนตระหนักถึงสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็ให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย