รอง ผบ.ตร.ยอมรับยังไม่พร้อมเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย

S__8249429กรมสอบสวนคดีพิเศษ 12 ธ.ค.- พล.ต.อ.ศรีวราห์ เผยยังขอหมายค้นวัดธรรมกายไม่ได้ เหตุทีมนิติวิทยาศาสตร์ไม่พร้อม เตือนลูกวัดหากขัดขวาง จนท.จะดำเนินคดีตั้งแต่เบาไปหนัก


พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ และ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ทีมกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกันแถลงผลการประชุมวางแผนออกหมายค้นเพื่อจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น หลังใช้เวลาประชุมนาน 4 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การประกอบกำลังของเจ้าหน้าที่ยังไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ป.วิอาญา ทีมนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ยังไม่พร้อม จึงยังไม่สามารถขอหมายค้นวัดพระธรรมกายได้ ต้องให้เวลาไปเตรียมการ ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะพร้อมเมื่อใด แต่ยืนยันว่าในส่วนของพยานหลักฐานมีมากพอที่จะขอศาลอนุมัติหมายค้น แต่ติดตรงที่การรวบรวมหลักฐานและแผนปฏิบัติการเข้าตรวจค้นยังไม่พร้อมเท่านั้น เชื่อว่าการยืดเวลาออกไปจะไม่ส่งผลทำให้เกิดความยุ่งยากในการเข้าตรวจค้นวัดธรรมกาย เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย


“หากมีการขัดขวางจะดำเนินคดี โดยจะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ในส่วนของลูกศิษย์วัด หากจะเข้าไปสวดมนต์ก็ไม่ห้าม แต่อย่าขัดขวางเจ้าหน้าที่ มองว่าการที่วัดพระธรรมกายมีการเปลี่ยนแปลงรักษาการเจ้าอาวาส ไม่มีผลต่อการเข้าตรวจค้น ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมาย 100% หากศาลอนุมัติหมายค้น เจ้าหน้าที่พร้อมเข้าปฎิบัติการภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจะประสานขอกำลังทหารเข้าร่วมด้วย แต่ไม่ขอระบุจำนวน” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว

ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ในการที่จะให้ตำรวจเข้าจับกุมเอง แล้วดีเอสไออายัดตัวพระธัมมชโยต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ต้องทำตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้นโยบาย คือ ให้ดำเนินการตามคำร้องขอของดีเอสไอ

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการตั้งกองกำลังแฝงในวัดพระธรรมกาย โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้มีการใข้ความรุนแรง เพราะที่ผ่านมามีการปิดพรางใบหน้าของคนบางส่วนที่อยู่ในวัด ส่วนการที่ต้องนำกำลังไปจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนเท่านั้น เพราะในส่วนที่เข้าตรวจค้นมีเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน เพราะกฎหมายระบุว่าต้องยศร้อยตรีขึ้นไป


ด้านอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การขอหมายค้นต้องแนบสำเนาสถานที่ในการเข้าตรวจค้นอย่างละเอียด และจะต้องค้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอยู่ในแผนการอยู่แล้ว ไม่ขอเปิดเผยวันเวลาที่จะเข้าปฏิบัติการ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้เล่นสงครามจิตวิทยากับวัดพระธรรมกาย แต่เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างรอบคอบและรัดกุม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย