ญี่ปุ่นพบคลัสเตอร์โอไมครอนระบาดในโอซากา

โอซากา 22 ธ.ค. – นายฮิโรฟูมิ โยชิมูระ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอซากาของญี่ปุ่น ยืนยันวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในชุมชน 3 คน ส่วนอีก 1 คนเป็นผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทางการท้องถิ่นของจังหวัดโอซากา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ระบุในแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 4 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อ 3 คนที่ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ และมีผู้ป่วยติดเชื้อ 1 คนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ขณะที่ทางการท้องถิ่นของกรุงโตเกียวรายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 38 คน ทำสถิติต่ำกว่า 50 คนติดต่อกันเป็นวันที่ 66 ขณะนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.7 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 18,300 คน ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 3 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อ 1 คนที่จังหวัดไซตามะในภูมิภาคคันโตและอีก 2 คนที่กรุงโตเกียว […]

จีนขีดเส้นตายไลฟ์สตรีมเมอร์แจ้งเลี่ยงภาษีภายในสิ้นปี

ปักกิ่ง 22 ธ.ค.- ทางการท้องถิ่นจีนเตือนคนดังและนักถ่ายทอดสดออนไลน์หรือไลฟ์สตรีมเมอร์ ให้รายงานเรื่องกระทำผิดทางภาษีภายในสิ้นปี 2564 หลังจาก “ราชินีแห่งการไลฟ์สตรีม” ของจีนถูกปรับเงินไปแล้ว 1,340 ล้านหยวน (ราว 7,100 ล้านบาท) ฐานเลี่ยงภาษี เว็บไซต์สำนักงานสรรพากรในเมืองและมณฑลที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูของจีน เช่น กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางตุ้ง เจ้อเจียง เจียงซู โพสต์ประกาศฉบับเดียวกันในวันนี้ สั่งให้คนดังและไลฟ์สตรีมเมอร์ตรวจสอบการกระทำผิดทางภาษีของตนเองแล้วแก้ไขและแจ้งให้สรรพากรทราบก่อนสิ้นปีนี้ เพราะจะได้รับการลดหย่อน บรรเทา หรือยกเว้นโทษค่าปรับตามเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้ หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกสรรพากรดำเนินการอย่างจริงจังตามระเบียบและกฎหมาย ประกาศนี้มีขึ้นหลังจาก หวง เวย สาวจีนวัย 35 ปี ซึ่งเป็นไลฟ์สตรีมเมอร์อันดับหนึ่งของประเทศที่รู้จักกันในชื่อ “เวย ย่า” ถูกสำนักงานสรรพากรในเมืองหางโจว ปรับเงินจำนวนมหาศาลเมื่อวันจันทร์ โทษฐานปกปิดรายได้ส่วนบุคคลและกระทำความผิดอื่น ๆ ระหว่างปี 2562-2563 คนดังและไลฟ์สตรีมเมอร์เป็นกลุ่มเป้าหมายล่าสุดของทางการจีนที่เริ่มจากการจัดการกับการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยี  ก่อนขยายไปยังการศึกษาเอกชน แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ และอุตสาหกรรมที่รัฐบาลมองว่า เป็นอุปสรรคต่อการลดความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจ และบรรลุ “ความมั่งคั่งร่วมกัน” ซึ่งเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ต้องการลดช่องว่างทางรายได้ เพราะคุกคามการยกระดับเศรษฐกิจจีนและความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์.-สำนักข่าวไทย

KNU วอนตั้งเขตห้ามบินคุ้มครองชาวเมียนมาใกล้ชายแดนไทย

แม่สอด 22 ธ.ค.- สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (KNU) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏเก่าแก่ที่สุดในเมียนมาขอให้ประชาคมโลกช่วยตั้งเขตห้ามบินใกล้ชายแดนไทย เพื่อปกป้องชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบระหว่างเคเอ็นยูกับกองทัพเมียนมา เคเอ็นยูออกแถลงการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า จากประสบการณ์การสู้รบที่ผ่านมาทำให้เชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงมากว่ากองทัพเมียนมาจะใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกับเป้าหมายทางพลเรือน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล บ้านเรือน ขอให้ประชาคมโลกช่วยกำหนดเขตห้ามบิน ด้วยการขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) จัดการประชุมฉุกเฉิน หลังจากยูเอ็นเอสซีได้ออกแถลงการณ์ที่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกทั้ง 15 ชาติเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน แสดงความวิตกต่อสถานการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนเมียนมา และขอให้กองทัพเมียนมาใช้ความอดกลั้นอย่างถึงที่สุด เคเอ็นยูและกองทัพเมียนมาสู้รบกันหนักหน่วงมากขึ้น เป็นเหตุให้ชาวเมียนมาจำนวนมากหนีมาลี้ภัยในฝั่งไทย โดยเข้ามาแล้วราว 3,400 คนตามข้อมูลของทางการไทย และยังตกค้างอยู่ในฝั่งเมียนมาอีกหลายพันคน เคเอ็นยูลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลเมียนมาในปี 2555 ยุติการก่อเหตุไม่สงบเพื่อขออำนาจปกครองตนเอง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 แต่หลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เคเอ็นยูและกองทัพกลับมาปะทะกันอีกครั้ง การสู้รบล่าสุดเกิดขึ้นเพราะกองทัพพยายามเข้าไปจับกุมคนในพื้นที่ปกครองของเคเอ็นยู.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมใหญ่มาเลเซีย ยอดตายพุ่ง 27 ราย

กัวลาลัมเปอร์ 22 ธ.ค. – มาเลเซียพบผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 27 ราย ในขณะที่ทางการเร่งทำความสะอาดพื้นที่ประสบภัยและประเมินความเสียหายจากภัยพิบัติดังกล่าว เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้หลายเมืองของมาเลเซียถูกน้ำท่วม ถนนหลักหลายเส้นถูกตัดขาด และประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ที่ปลอดภัย ขณะที่รัฐสลังงอร์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นและร่ำรวยที่สุดของมาเลเซีย เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดแห่งหนึ่งจากภัยพิบัติในครั้งนี้ ส่วนประชาชนหลายคนที่ติดค้างอยู่ที่บ้านในนครชาห์อาลัมของรัฐสลังงอร์ต้องอดอาหารเป็นเวลาหลายวันกว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะนำเรือเข้ามาช่วยอพยพออกจากบ้าน ขณะนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในมาเลเซียเพิ่มขึ้นเป็น 27 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิต 20 รายที่รัฐสลังงอร์ และมีผู้เสียชีวิต 7 รายที่รัฐปะหัง รวมถึงยอดผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่งที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ในขณะเดียวกัน นายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียเปิดประชาพิจารณ์หลังมีเสียงตำหนิแนวทางรับมือน้ำท่วมของรัฐบาลอย่างกว้างขวาง ส่วนนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ ของมาเลเซีย ออกมากล่าวยอมรับเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลมาเลเซียมีข้อบกพร่องในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ แต่ให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงการทำงานต่อไปในอนาคต. -สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียยืนยันไม่ล็อกดาวน์คริสต์มาส

ซิดนีย์ 22 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียยืนยันว่า ออสเตรเลียจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ช่วงคริสต์มาส เนื่องจากโรงพยาบาลยังสามารถรับมือได้ดี แม้มีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากเป็นประวัติการณ์เพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันแถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินกับมุขมนตรีรัฐต่าง ๆ ในวันนี้ว่า แม้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเดินหน้าทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการเข้าโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตยังคงต่ำเมื่อเทียบกับช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาด ชาวออสเตรเลียได้พยายามอย่างหนักที่จะได้มีเวลาร่วมกันในช่วงคริสต์มาส และรัฐบาลต้องการปกป้องความพยายามนี้ สิ่งหนึ่งที่ที่ประชุมเห็นพ้องกันในวันนี้คือ จะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันย้ำว่า การจำกัดการระบาดเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล รัฐบาลกลางจะไม่บังคับให้สวมหน้ากากอนามัยในอาคาร แม้ว่าแนะนำให้ทำอย่างยิ่งก็ตาม ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ศูนย์ฉีดวัคซีนกำลังเร่งเดินหน้าอยู่ โดยที่คณะผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องร่นระยะห่างของการฉีดเข็ม 3 ขณะนี้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วร้อยละ 80 ออสเตรเลียพบผู้ติดโควิดรายใหม่เกิน 5,000 คนเป็นครั้งแรกในวันนี้ ลบสถิติเดิม 4,600 คนเมื่อวันก่อน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ร้อยละ 95 อยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 1 และ 2 ของประเทศ ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมทั้งประเทศราว 265,000 คน เสียชีวิตราว 2,160 คน.-สำนักข่าวไทย

ดินถล่มเหมืองหยกในเมียนมา สูญหาย 80 คน

เนปิดอว์ 22 ธ.ค. – เกิดเหตุดินถล่มที่เหมืองหยกแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมียนมาในช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าอาจมีผู้สูญหายมากถึง 80 คน แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่มูลนิธิเครือข่ายข่าวคะฉิ่นเพื่อการพัฒนาเผยว่า เกิดเหตุดินถล่มที่เหมืองหยกแห่งหนึ่งในเมืองพากันของรัฐคะฉิ่นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าเหตุดังกล่าวอาจทำให้แรงงานราว 80 คนถูกเศษซากจากการทำเหมืองกวาดตกลงไปในทะเลสาบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินทางถึงที่เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. และกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต แต่ยังคงไม่พบผู้เสียชีวิตในขณะนี้ ในขณะเดียวกัน เว็บไซต์ข่าวมิซซิมา และสำนักข่าวขิต ทิต ของเมียนมา รายงานว่า มีผู้สูญหายหลายสิบรายจากเหตุดินถล่มที่เหมืองหยกดังกล่าว ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหยกแบบลับ ๆ ของเมียนมา ก่อนหน้านี้ เพิ่งเกิดเหตุดินถล่มที่เหมืองอีกแห่งในเมียนมาเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย ทั้งนี้ เหมืองหลายแห่งที่ขาดการควบคุมอย่างเคร่งครัดของเมืองพากันมักเกิดเหตุดินถล่มและอุบัติเหตุอื่น ๆ อยู่เป็นประจำ โดยมีแรงงานยากจนจากทั่วประเทศแห่เข้ามาทำงานในเหมืองเพื่อขุดหาหยกส่งออกไปยังจีน. -สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียทดลองใช้ยาต้านลิ่มเลือดแข็งตัวพ่นจมูกกันโควิด

เมลเบิร์น 22 ธ.ค.- คณะนักวิจัยในออสเตรเลียทดลองนำเฮปาริน ซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของลิ่มเลือด มาพัฒนาเป็นสเปรย์พ่นจมูกเพื่อป้องกันการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ดอน แคมป์เบลล์ ผู้อำนวยการแผนกอายุกรรมของนอร์ทเทิร์นเฮลท์ในนครเมลเบิร์น ร่วมกับคณะนักวิจัยในมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น มหาวิทยาลัยโมนาช และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พัฒนาเฮปารินให้เป็นยาพ่นที่จะเคลือบจมูกแต่ไม่ลงไปในปอด เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก มีราคาถูก คาดว่าจะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ รวมทั้งสายพันธุ์โอไมครอน เพราะยาจะขัดขวางไม่ให้โปรตีนของไวรัสเข้าไปจับเซลล์ ไม่ว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใดก็ตาม รัฐบาลรัฐวิกตอเรียได้ให้งบประมาณสนับสนุนคณะนักวิจัยทำการทดลองทางคลินิกเป็นเวลา 6 เดือนกับครัวเรือน 340 ครัวเรือน โดยจะฉีดยาพ่นเฮปารินหรือยาพ่นหลอกภายใน 24 ชั่วโมงหลังใกล้ชิดผู้ติดเชื้อหรือหลังทราบผลตรวจว่าติดเชื้อ เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อ การใช้ยาพ่นเฮปารินทำได้ง่าย ๆ ด้วยการพ่นจมูกข้างละ 2 ครั้ง วันละ 3 เวลา นอกจากนี้เฮปารินยังเป็นยาที่ทั่วโลกใช้มากเป็นอันดับ 2 และสามารถอยู่ในอุณหภูมิห้องได้นานกว่า 3 เดือน จึงสามารถใช้ได้ในวงกว้าง.-สำนักข่าวไทย

จีนพบฟอสซิลตัวอ่อนไดโนเสาร์สมบูรณ์สุดในประวัติศาสตร์

ปักกิ่ง 22 ธ.ค. – นักวิทยาศาสตร์จีนค้นพบฟอสซิลตัวอ่อนไดโนเสาร์แบบสมบูรณ์ที่ใกล้ฟักออกจากไข่คล้ายกับไก่ โดยคาดว่าการค้นพบในครั้งนี้จะช่วยให้เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างไดโนเสาร์กับสัตว์ปีกในยุคปัจจุบันมากขึ้น บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จีนได้ค้นพบฟอสซิลตัวอ่อนไดโนเสาร์ที่อยู่ในไข่ในเมืองก้านโจวของมณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน โดยคาดว่าตัวอ่อนไดโนเสาร์เป็นเทโรพอดไร้ฟัน (toothless therapod dinosaur) หรือไดโนเสาร์สายพันธุ์โอวิแรปโทโรซอร์ (oviraptorosaur) ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 66 ล้านปีและได้รับการตั้งชื่อว่า เบบี้ยิงเหลียง (Baby Yingliang) เบบี้ยิงเหลียงมีลำตัวยาว 27 เซนติเมตรวัดจากหัวถึงหางและอยู่ในไข่ขนาด 6.7 นิ้ว ที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติยิงเหลียงสโตนในจีน ส่วนไดโนเสาร์สายพันธุ์โอวิแรปโทโรซอร์ ซึ่งมีความหมายว่า สัตว์เลื้อยคลานจอมขโมยไข่ (egg thief lizards) เป็นไดโนเสาร์มีขน ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือในปัจจุบัน และมีชีวิตอยู่ในช่วงยุคครีเทเชียสตอนปลาย หรือประมาณ 66-100 ล้านปีก่อน ดร. ฟิออน ไวซัม หม่า นักวิจัยชาวฮ่องกง กล่าวว่า เบบี้ยิงเหลียงเป็นฟอสซิลตัวอ่อนไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดในประวัติศาสตร์ การค้นพบในครั้งนี้จะช่วยให้นักวิจัยเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างไดโนเสาร์กับสัตว์ปีกในยุคปัจจุบัน ฟอสซิลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตัวอ่อนไดโนเสาร์กำลังอยู่ในท่างอแขนขาเข้าหากึ่งกลางลำตัว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คล้ายกับตัวอ่อนของสัตว์ปีกยุคปัจจุบันในช่วงที่ใกล้ฟักออกจากไข่ ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าพฤติกรรมของสัตว์ปีกยุคปัจจุบันอาจพัฒนาและเกิดขึ้นครั้งแรกในบรรพบุรุษที่เป็นไดโนเสาร์. -สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียคิดค้นวิธีตรวจภูมิต้านโควิดรู้ผลใน 20 นาที

ซิดนีย์ 22 ธ.ค. – นักวิจัยออสเตรเลียได้คิดค้นการตรวจวัดระดับสารภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีความแม่นยำสูงและรู้ผลภายในเวลา 20 นาทีด้วยการใช้เข็มเจาะเลือดจากนิ้วมือเท่านั้น ผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารอีไบโอเมดิซีน (EBioMedicine) ในวันนี้ระบุว่า นับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีวิธีตรวจวัดระดับสารภูมิต้านทานเชื้อโควิดด้วยการใช้เครื่องตรวจวิเคราะห์อย่างง่ายทดสอบ ณ จุดดูแลผู้ป่วย หรือที่เรียกว่า พีโอซี (point-of-care test) คณะนักวิทยาศาสตร์สถาบันเบอร์เน็ตและสถาบันปีเตอร์ โดเฮอร์ตีเพื่อการติดเชื้อและภูมิคุ้มกันของออสเตรเลีย ผู้คิดค้นวิธีนี้ระบุว่า แม้การตรวจแบบพีโอซีส่วนใหญ่จะสามารถวัดระดับภูมิคุ้มกันเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมโดยรวมและนำมาคำนวณหาค่าสารภูมิต้านทานชนิดลบล้างฤทธิ์ต่อเชื้อโควิด (neutralizing antibodies) แต่วิธีของพวกเขาเป็นวิธีเดียวที่สามารถวัดการทำงานของสารภูมิต้านทานดังกล่าวที่สอดคล้องกับการมีภูมิต้านทานโรคโควิด-19 และยังสามารถนำไปปรับใช้เพื่อตรวจดูว่าบุคคลที่เข้ารับการตรวจมีภูมิคุ้มกันต้านทานเชื้อโควิดแบบเจาะจงสายพันธุ์ เช่น เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หรือไม่ ผศ. เดวิด แอนเดอร์สัน รองผู้อำนวยการสถาบันเบอร์เน็ต กล่าวว่า การตรวจแบบพีโอซีอาจมีประโยชน์ในการพิสูจน์อย่างรวดเร็วว่าบุคคลใดที่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพราะมีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถรู้ผลได้จากการใช้เข็มเจาะเลือดจากปลายนิ้ว ซึ่งสะดวกต่อการนำไปใช้ในที่บริเวณจุดดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้ คณะนักวิทยาศาสตร์คาดว่า วิธีตรวจดังกล่าวจะเป็นทางเลือกใหม่ในการคัดกรองและตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันเพื่อใช้เป็นข้อบ่งชี้ในการฉีดวัคซีนโควิด โดยเฉพาะในประเทศที่เผชิญกับสถานการณ์วิกฤตด้านเวลาและในชุมชนที่ยากจนหรือตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งยากต่อการเข้าถึงวิธีตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ.-สำนักข่าวไทย

ปานามาร่นระยะห่างวัคซีนเข็ม 3 หลังพบโอไมครอนรายแรก

ปานามาซิตี 22 ธ.ค.- ปานามาจะร่นระยะห่างการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็ม 3 หรือเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันลงครึ่งหนึ่งจาก 6 เดือนเป็น 3 เดือน หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีเลาเรนติโน กอร์ติโซ ทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า การฉีดวัคซีนเข็ม 3 จะมีขึ้นหลังจากฉีดเข็ม 2 ไปแล้ว 3 เดือน จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 6 เดือน เนื่องจากวัคซีนช่วยป้องกันการเสียชีวิต เขาจึงอนุมัติให้ศูนย์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศลดระยะห่างการฉีดเข็ม 3 ลงเหลือ 3 เดือนให้แก่ประชากรวัย 16 ปีขึ้นไป โดยจะเป็นการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ ไม่ว่าเข็มก่อนหน้านี้จะเป็นไฟเซอร์หรือแอสตราเซนเนกาก็ตาม ข้อมูลของรัฐบาลปานามาระบุว่า ประชากร 4 ล้าน 2 แสนคน รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 6 ล้านโดส ประชากรเป้าหมายร้อยละ 90 ได้ฉีดเข็มแรกแล้ว และร้อยละ 80 ได้ฉีดครบ 2 เข็ม ขณะที่มียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า […]

“ไบเดน” แจกชุดตรวจโควิด 500 ล้านชุดฟรีสกัดโอไมครอน

วอชิงตัน 22 ธ.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลได้สั่งซื้อชุดตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตัวเอง (rapid antigen test) จำนวน 500 ล้านชุด เพื่อนำมาแจกให้ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ประธานาธิบดีไบเดนประกาศเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลสหรัฐได้สั่งซื้อชุดตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตนเอง 500 ล้านชุดเพื่อแจกให้ประชาชนฟรี และจะเพิ่มการสนับสนุนด้านทหารและการตรวจหาเชื้อโควิดในโรงพยาบาลทั่วประเทศ แต่ระบุว่า การระบาดในสหรัฐยังไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ สถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่รุนแรงเท่ากับในเดือนมีนาคมปีก่อน และทางการได้เตรียมแผนรับมือจากบทเรียนที่ได้จากการระบาดครั้งก่อนแล้ว นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังเตือนประชาชนให้ระมัดระวังตนเองและเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามแล้ว แม้ว่าทรัมป์ถูกผู้ฟังปราศรัยโห่ใส่ที่เมืองดัลลัสในรัฐเทกซัสหลังจากที่เขาประกาศเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มสาม บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาดในหลายเมืองของสหรัฐ เช่น นครนิวยอร์กและกรุงวอชิงตัน สหรัฐพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวสูงเกือบร้อยละ 75 จากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ และพบผู้เสียชีวิต 1 รายที่มีความเชื่อมโยงกับเชื้อดังกล่าวและยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดในรัฐเทกซัส ขณะนี้ สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 52 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 830,000 คน. -สำนักข่าวไทย

1 347 348 349 350 351 1,268
...