เปิดป่าในเมือง “มหัศจรรย์ป่าชายเลนแกรนด์แคนยอนเมืองไทย” จ.กระบี่

16 เม.ย. – “วราวุธ” เปิดป่าในเมือง “มหัศจรรย์ป่าชายเลนแกรนด์แคนยอน เมืองไทย” จ.กระบี่ พร้อมแนะเปลี่ยนชื่อเพื่อแสดงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น กำชับ “กรมทะเล” เร่งวางมาตรการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์


กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเตรียมประกาศยกความสำคัญพื้นที่ป่าชายเลนกระบี่ เป็น “แคนยอนเมืองไทย” ด้วยสภาพผืนป่าชายเลนที่สมบูรณ์สวยงามและภูมิประเทศเหมาะแก่การท่องเที่ยว นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ พร้อมย้ำให้เที่ยวอย่างให้เกียรติธรรมชาติและชาวกระบี่ที่ดูแลป่าชายเลนจนสมบูรณ์อย่างปัจจุบัน ด้านกรมทรัพยากรทางทะเลเตรียมแผนกำหนดมาตรการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จัดพื้นที่ท่องเที่ยวพายเรือคายัค รวมถึงสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ป่าชายเลน พร้อมเดินหน้าร่วมกับจังหวัดกระบี่กำหนดมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ต่อไป

วันที่ 16 เม.ย.64 ภายหลังจากการเป็นประธานเปิดโครงการป่าในเมือง “มหัศจรรย์ป่าชายเลนแกรนด์แคนยอนเมืองไทย” ที่บ้านท่าเลน ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ผืนป่าชายเลนภาพรวมของประเทศไทยมีสภาพที่สมบูรณ์ขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ผลการสำรวจล่าสุดปี 2564 ของ GISTDA มีผืนป่าชายเลนคงสภาพสมบูรณ์ เนื้อที่ 1.73 ล้านไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2557 กว่า 200,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม แผนการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนยังคงต้องทำกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และสำหรับป่าชายเลนที่สมบูรณ์อยู่แล้ว เราต้องใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ซึ่งในวันนี้ ตนได้มาเป็นประธานเปิดโครงการป่าในเมือง “มหัศจรรย์ป่าชายเลนแกรนด์แคนยอนเมืองไทย” และได้สำรวจผืนป่าชายเลนโดยรอบ ด้วยการพายเรือคายัค รอบพื้นที่ ได้เห็นถึงความสมบูรณ์ของผืนป่าชายเลนแล้วรู้สึกภูมิใจและดีใจกับพี่น้องชาวกระบี่ ที่ช่วยกันดูแล อนุรักษ์ จนผืนป่าชายเลนมีความสวยงามและสมบูรณ์เช่นนี้ และตนก็คิดว่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ก็อยากจะมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้เช่นกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมชม ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหามาตรการในการจัดการและแนวทางในการควบคุมการท่องเที่ยวไม่ให้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรป่าชายเลนโดยรวม ที่พี่น้องประชาชนจังหวัดกระบี่ได้พยายามช่วยกันดูแลผืนป่ามาจนสมบูรณ์ อย่าให้คนนอกที่แวะมาท่องเที่ยวเข้ามาทำลายทรัพยากรเหล่านี้


นอกจากนี้ ยังได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการหาแนวทางยกระดับพื้นที่ป่าชายเลนและป่าบกอีกหลายพื้นที่ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ แต่ต้องไม่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเสียหาย สิ่งหนึ่งที่อยากจะย้ำให้กับทุกคนได้ทราบว่า “ชาวกระบี่ รุ่นปู่ย่าตายายได้ดูแลป่าชายเลนเพื่อความสมดุลของธรรมชาติในพื้นที่ เพื่อส่งมอบให้แก่ลูกหลานชาวกระบี่ บัดนี้ เขาเปิดบ้านให้เราเที่ยวชมความสวยงามอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลและป่าชายเลน ที่เขาได้ร่วมกันรักษามาหลายชั่วอายุคน ดังนั้น เราจึงต้องท่องเที่ยวอย่างให้เกียรติธรรมชาติและให้เกียรติชาวกระบี่ทุกคน รักที่จะท่องเที่ยว ก็ต้องรู้จัก รักษ์ธรรมชาติด้วย และผมจะได้มอบนโยบายให้แก่กรม ทช.ว่าเพื่อเป็นการแสดงถึงความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของสภาพพื้นที่ป่าชายเลนแห่งนี้ที่มีความสวยงามอย่างยิ่งไม่แพ้แห่งใดในโลก จึงจะขอให้พิจารณาทบทวนชื่อเสียใหม่เป็น “มหัศจรรย์ป่าชายเลน บ้านท่าเลนแคนยอน” นายวราวุธ กล่าว

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า แนวทางสำคัญของการดูแลผืนป่าชายเลนทั่วประเทศ คือ การสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ผืนป่าชายเลนแห่งนี้ที่มีขนาดกว่า 3,700 ไร่ ก็ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนจังหวัดกระบี่ช่วยกันดูแลรักษามาไว้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ ทางจังหวัดกระบี่ก็ได้ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในจังหวัด โดย พ.ต.ท. ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้ประสานและกำกับหน่วยงานในพื้นที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานของกรมฯ มาโดยตลอด ซึ่งหลังจากเปิดพื้นที่นี้อย่างเป็นทางการแล้ว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้วางมาตรการและกิจกรรมในพื้นที่ ได้แก่ พายเรือคายัคบริเวณอ่าวท่าเลน ไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวประมาณ 7 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ป่าชายเลนที่หายาก สลับกับความสวยงามของธรรมชาติภูเขาหินปูนมากมายหลายสิบลูก รวมทั้งมีสัตว์ป่านานาพันธุ์ต่าง ๆ อาศัยอยู่ สามารถมองเห็นได้แบบใกล้ชิด สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว ได้เก็บภาพและความประทับใจเหล่านี้ไว้ในความทรงจำ ซึ่งผืนป่าแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกระบี่ มีระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลเขาทอง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ซึ่งบางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกาโหรดและป่าคลองหิน และบางส่วนเป็นป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี สำหรับมาตรการอื่น ได้เตรียมหารือกับทางจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยอาจจะเพิ่มกิจกรรมที่สร้างการเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เป็นต้น

สิ่งสุดท้ายที่อยากเน้น คือ การทิ้งขยะในบริเวณพื้นที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ติดทะเล อีกทั้งมีสัตว์ป่าและสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเราก็มีบทเรียนที่ต้องสูญเสียสัตว์ทะเลและสัตว์ป่าหายากไปเพราะขยะตกค้างเหล่านี้” นายโสภณ อธิบดี ทช. กล่าวเน้นย้ำเพื่อขอความร่วมมือ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม RBC ระดับเลขาฯ ไม่ยกเลิก หลังมีข่าวส่อแววล่ม

สระแก้ว 21 ส.ค.- ไม่ล่ม! การประชุม RBC ระดับเลขานุการ ยังไม่ยกเลิก กระบวนการหารือยังคงดำเนินต่อไป แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวส่อล่ม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เดินทางมาเข้าร่วม ภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หลายฝ่ายจับตาไปที่การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมื่อถึงเวลาประชุม RBC ระดับเลขานุการ ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้เดินทางมา บรรยากาศที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – กัมพูชา (RBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกำหนดในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุม กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นประธานคณะทำงาน ฝ่ายไทย ขณะกัมพูชา นำโดย พลโท ซอ […]

ล่า 18 วัน รวบแล้วมือยิง “กำนันเล้น”

ตรัง 21 ส.ค.- เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มกำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตคารถ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ตำรวจรวบตัวคนร้ายได้แล้ว หลังหนีกบดานนานถึง 18 วัน พร้อมเตรียมสอบสวนหามูลเหตุจูงใจ ติดตามจากรายงาน -สำนักข่าวไทย

เสริมเขี้ยวเล็บ! ทัพเรือรับมอบปืนใหญ่ ระยะยิง 40 กม.

ชลบุรี 21 ส.ค.- กองทัพเรือเสริมเขี้ยวเล็บ! รับมอบปืนใหญ่ 155 มิลลิเมตร แบบอัตตาจร ระยะยิง 40 กม. เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศ วันนี้ 21 ส.ค.68 ที่หน้ากองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ) รับมอบปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตราจรล้อยาง จากศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์อุตสหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร จำนวน 6 กระบอก โดยมี พลเรือโท ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือและประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาปืนใหญ่ฯ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนข้าราชการ กำลังพล เข้าร่วมในพิธี  การดำเนินโครงการจัดหาปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตตาจร ล้อยาง (ATMG) นับเป็นการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างกำลังรบหลักของ ทร. เพื่อให้ […]

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]