กรุงไทยคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 3.2% ขณะเศรษฐกิจโลกยังไม่ถดถอย

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-กรุงไทยคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 3.2% ชี้เศรษฐกิจโลกยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่เผชิญปัจจัยลบหลายด้าน แนะธุรกิจให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง  


ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าKrungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว สถานการณ์เงินเฟ้อโลกยังไม่คลี่คลาย ทำให้เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อจนแตะระดับ 3.3% ปลายปีนี้ คาดว่าการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจะสามารถนำไปสู่ Soft Landing ได้ ด้านเศรษฐกิจไทยนั้น Krungthai COMPASS ประเมินว่าได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีกว่าคาด โดยเศรษฐกิจในปี 2565 มีแนวโน้มขยายตัว 3.2% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 3.0% และปี 2566 ขยายตัวที่ 4.2% ด้านเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจาก 5.6% ในครึ่งปีแรกเป็น 6.6% ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 6.1% ก่อนจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.0% ในปีหน้าจากการคลี่คลายของภาวะชะงักงันด้านอุปทาน รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ช่วยลดแรงกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนั้น คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป สู่ระดับ1.25% ในสิ้นปี 2565 และ 2.00% ในสิ้นปี 2566

“Krungthai COMPASS มองว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเป็น “The New K-shaped Economy” โดยปัจจัยเสี่ยงใหม่จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนสูง ทำให้ธุรกิจที่เติบโตได้ดีในช่วงที่ผ่านมาอย่างธุรกิจส่งออกเผชิญความท้าทายมากขึ้น ขณะที่ข้อจำกัดจากโควิด-19 ที่ทยอยหมดไปเป็นแรงหนุนให้ธุรกิจในประเทศฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เราประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศปีนี้จะฟื้นสู่ระดับ 8.1 ล้านคน สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 6.4 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 21.3 ล้านคนในปี 2566 หรือครึ่งทางของภาวะปกติอย่างไรก็ดี หลายภาคส่วนได้รับอานิสงส์ของภาพรวมที่ดีขึ้นไม่มากนัก ทำให้ยังมีความจำเป็นต้องใช้นโยบายเศรษฐกิจช่วยประคับประคองต่อไป”ดร.พชรพจน์กล่าว


ดร. ฉมาดนัย มากนวล ผู้อำนวยการฝ่าย Business Risk and Macro Research ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่า ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จะทำให้การส่งออกในระยะข้างหน้าแผ่วลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้สูงถึง 12.7% โดยการส่งออกในปี 2565 จะขยายตัวที่ 7.5% ส่วนในปี 2566 จะขยายตัว 2.5% โดยในระยะข้างหน้าจะต้องจับตาการทบทวนการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯต่อจีน ซึ่งสหรัฐฯ อาจจะปรับลดหรือยกเลิกภาษีสินค้าบางรายการในกลุ่มสินค้าขั้นกลาง เช่น พลาสติกและเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เฟอร์นิเจอร์โดยสินค้าเหล่านี้รวมกันคิดเป็นประมาณ 1 ใน 5 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดสหรัฐฯ ซึ่งผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบและต้องแสวงหาตลาดอื่นทดแทน 

ความท้าทายอีกประการหนึ่ง คือ วิกฤตการณ์ของประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในเอเชีย ได้แก่ ลาว เมียนมา ปากีสถาน และศรีลังกา ซึ่งเป็นประเทศร่วมภูมิภาคที่มีความเชื่อมโยงกับไทย หากรวมสัดส่วนการส่งออกของไทยไปทั้ง 4 ประเทศแล้ว จะมีมูลค่ารวมกันประมาณ 3.79% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวมประมาณ 2.39% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของไทย Krungthai COMPASS มองว่า ความเสี่ยงดังกล่าวถือเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังหากปัญหาข้างต้นบานปลายจนกลายเป็นวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคต

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai Global Markets ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้จนถึงปีหน้า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทจะขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ทิศทางเงินดอลลาร์สหรัฐปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่สะท้อนผ่านดุลบัญชีเดินสะพัด และทิศทางกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งประเมินว่าค่าเงินบาทมีโอกาสทยอยกลับมาแข็งค่าในช่วงปลายปีนี้ อยู่ที่ระดับ 34.25-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนปีหน้าประเมินว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่จะได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวและทิศทางการทยอยอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ จะส่งผลให้ค่าเงินบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ33.50-33.75 บาทต่อดอลลาร์ โดยช่วงครึ่งหลังของปี 2566 คาดว่าเงินบาท ณ สิ้นปีจะอยู่ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์


จากมุมมองทั้งหมดข้างต้น Krungthai COMPASS ประเมินว่า ปี 2565-2566 นี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ภาคธุรกิจต้องให้ความสำคัญการบริหารความเสี่ยงทั้งจากปัจจัยระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นเป็นการบริหารต้นทุนจากภาวะเงินเฟ้อสูงและการป้องกันผลกระทบต่อรายได้และต้นทุนจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนในระยะยาวภาคธุรกิจต้องรู้เท่าทันและปรับตัวสอดรับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปตามวิถีใหม่ โดยเฉพาะการที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions และการปฏิรูปเศรษฐกิจโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสใหม่ในทางธุรกิจได้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ภท.” เปิดประวัติ-ผลงาน “อนุทิน” แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 32

กทม. 3 ก.ย.- “พรรคภูมิใจไทย” โพสต์ประวัติ-ผลงาน “อนุทิน ชาญวีรกูล” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย ที่รัฐสภา โดยมีพรรคประชาชนประกาศสนับสนุน พร้อมรายชื่อ สส. 146 คน ร่วมสนับสนุนให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ล่าสุด เพจพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ภาพและประวัตินายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ทันที โดยระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 การศึกษา2527 : โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ2528 : Worcester Academy, Massachusetts U.S.A.2532 : B.S. in Industrial Engineering, Hofstra […]

น้ำป่าดอยสุเทพทะลักท่วมเมืองเชียงใหม่

3 ก.ย. – ฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าจากดอยสุเทพหลากเข้าท่วมชุมชนในเชียงใหม่กลางดึก ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวเก็บข้าวของไม่ทันต้องปล่อยจมน้ำ ขณะที่น้ำท่วมหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงแล้วทิ้งไว้แต่ความเสียหายเป็นวงกว้าง น้ำป่าจากดอยสุเทพ ที่หลากมาตามลำห้วยช่างเคี่ยน ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้าในชุมชนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อย่างรวดเร็วในช่วงกลางดึก ระดับน้ำที่ท่วมตั้งแต่ 30 เซนติเมตร จนถึง 1 เมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ทันได้ตั้งตัว เก็บข้าวของเครื่องใช้ไม่ทัน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องปล่อยให้จมน้ำไป บางส่วนที่พึ่งกลับจากการทำงานต้องเดินฝ่าน้ำท่วมเข้าไปเก็บทรัพย์สินในบ้านเท่าที่จะทำได้ รถยนต์หลายคันเคลื่อนย้ายไม่ทันจมอยู่ในน้ำ โดยชาวบ้านบอกว่าน้ำมาเร็วและแรง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ถูกน้ำท่วม นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก เร่งให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำออกจากชุมชนลงคลองชลประทาน พร้อมระบุสาเหตุน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจาก การสร้างสะพานข้ามคลองชลประทานและมีการปิดท่อระบายน้ำไว้ ทำให้น้ำป่าที่หลากลงมาท่วมไม่สามารถระบายได้ ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในเช้าวันนี้ ซึ่งน้ำลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านเร่งสำรวจความเสียหายโดยบางส่วนยังยกข้าวของไว้บนที่สูงไว้ก่อนจนกว่าจะหมดหน้าฝน ส่วนน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักที่เพชรบูรณ์ มา 3 วัน ระดับน้ำที่เคยท่วมสูงถึง 1 เมตร ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในเช้าวันนี้ หลังระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านอำเภอหล่มเก่าลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำกว่า 1 เมตร […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้

รัฐสภา 3 ก.ย.-เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้ เหตุรอศาล รธน.ตอบเป็นลายลักษณ์อักษร หลัง 20 สส.เพื่อไทย ยื่นปมตุลาการพ้นวาระ คดี “แพทองธาร” และความชัดเจนยุบสภา นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุมสองฝ่าย เพื่อหารือกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยใช้เวลาหารืออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่า เนื่องจากมี สส.20 คน ของพรรคเพื่อไทย ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายต่อกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง วินิจฉัย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี จากข้อเท็จจริงที่พบว่า นายสราวุธ ทรงศิวิไล ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา […]