พาณิชย์ รับทราบต้นทุนสูง แต่ยังไม่ให้ขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

กรุงเทพฯ 15 ส.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายใน ย้ำจุดยืน ทราบถึงปัญหาต้นทุนกระทบต่อการผลิต แต่ยังไม่ให้ขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็น 8 บาท/ซองตามที่ขอมาแน่นอน ด้านกลุ่มสมาคมค้าปลีก แนะรัฐควรปล่อยให้สินค้าขึ้นลงตามกลไกมากกว่านี้

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรณีผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 รายได้แถลงข่าวร่วมกัน ขอให้กรมการค้าภายในพิจารณาอนุญาตให้ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขนาดมาตรฐาน จากซองละ 6 บาท เป็นซองละ 8 บาท เนื่องจากภาระต้นทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมการค้าภายในได้รับทราบและติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ยอมรับว่าต้นทุนบางรายการมีการปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นทุนด้านพลังงานที่เป็นทั้งต้นทุนทางตรงและทางอ้อม รวมถึงวัตถุดิบหลัก เช่น แป้งสาลี ก็มีการปรับเพิ่มขึ้น เป็นผลสืบเนื่องจากทั้งปัญหาโควิด-19 และวิกฤตด้านพลังงาน แต่ในช่วงที่ผ่านมาผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ได้ตรึงราคาเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพมาโดยตลอด ซึ่งกรมการค้าภายในขอขอบคุณในความร่วมมือมาเป็นอย่างดี


สำหรับการพิจารณาอนุญาตปรับราคาจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น จะพิจารณาเป็นรายๆ โดยอยู่บนหลักการ วิน-วิน โมเดล ที่ผู้ประกอบการต้องยังคงผลิตและจำหน่ายต่อไปได้ ผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายสั่งการไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้กรมการค้าภายในก็อยู่ระหว่างพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และปัจจุบันยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแต่อย่างใด หากพบว่าผู้ประกอบการ ห้างร้าน ร้านค้าต่างๆ รายใดมีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควรหรือกักตุนสินค้า จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการจำหน่ายสินค้าไม่ว่าจะช่องทางใดต้องแสดงราคาอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศจะได้มีการเพิ่มความเข้มข้นในการติดตามการจำหน่ายสินค้ายิ่งขึ้น หากพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการที่มีข่าวปรับราคาช่วงนี้นั้น โดยเห็นว่ารัฐควรปล่อยให้กลไกตลาด โดยสินค้าดังกล่าวมีการแข่งขันสูง ซึ่งผู้ประกอบการผลิตสินค้าปรับราคาขึ้นได้เพียงเล็กน้อยแต่ในขณะที่ต้นทุนการผลิตปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น จึงมองว่าราคาสินค้าจำเป็นต้องปรับขึ้นบ้างเพื่อให้อยู่ในระดับที่สามารถผลิตต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นจะเหลือเพียงผู้ผลิตรายใหญ่ผูกขาดตลาด เช่น กรณีของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มองว่าต้นทุนการผลิตปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาไม่ได้ปรับมาเป็นระยะเวลาหลายปี ซึ่งข่าวขอขอปรับขึ้นซองละ 1-2 บาท ไม่ถือว่าเกินสมควร แต่หากภาครัฐยังคงดึงเวลาออกไป อาจส่งผลต่อตลาดในเรื่องของการผลิต ผู้ประกอบการอาจต้องหาทางออกใหม่ด้วยการยกเลิกผลิตสินค้าเดิมและผลิตสินค้าตัวใหม่กำหนดราคาใหม่ สุดท้ายผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบอย่างมากได้


ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ มองว่า สินค้าบางชนิดได้รับผลกระทบจากต้นทุนแอบแฝงมากเกินไปจนทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นเกินจริง ไม่ได้เกิดจากต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตเพียงอย่างเดียว เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าวางสินค้า ค่าใช้จ่ายบริหารจัดการอื่นๆ ขณะที่ต้นทุนหลักบางชนิดรัฐบาลควรดูแลไม่ใช่ควบคุมราคาปลายทาง เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง หากรัฐบาลดูแลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ราคาสินค้าก็ไม่จำเป็นต้องปรับเพิ่มขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร