สมาคมกุ้งไทย ห่วงอุตสาหกรรมกุ้ง วอนนายกฯ จัดเป็น “วาระแห่งชาติ”

9 ส.ค. – สมาคมกุ้งไทย ห่วงใยอุตสาหกรรมกุ้ง วอนนายกฯ ประยุทธ์ จัดเป็น “วาระแห่งชาติ” ร่วมนั่งหัวโต๊ะแก้วิกฤติโรคกุ้ง ดันเป้าผลิต 4 แสนตัน ปี 66 ให้สำเร็จ


สมาคมกุ้งไทย ออกโรงห่วงใยอุตสาหกรรมกุ้งไทย ขอนายกรัฐมนตรีจัดกุ้งเป็นวาระแห่งชาติ นำทัพเร่งแก้วิกฤติปัญหาโรคให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งได้ ช่วยพลิกฟื้นอุตสาหกรรมกุ้งของประเทศ เป้าวัตถุดิบกุ้ง 4 แสนตันเพื่อการส่งออก ภายในปี 66 ขอบคุณรัฐพยายามช่วย แต่วิธีไม่เวิร์ก/ไม่ตอบโจทย์ (10 ปี เกิดโรคยังแก้ไม่ได้ สูญเสียโอกาส-รายได้การส่งออก 5 แสนล้านบาท) วอนนายกฯ ให้ความสำคัญทุ่มงบประมาณ กำลังคน ฯลฯ เต็มที่ สนับสนุนกรมประมง-ส่วนงานเกี่ยวข้อง

บ่ายวันนี้ (9 สิงหาคม 2565) นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย นำทีมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง กว่า 20 คน ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้สินค้ากุ้งเป็นวาระแห่งชาติ ออกมาตรการแก้ปัญหาการเลี้ยงเรื่องโรคให้พี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งเร่งด่วน พลิกฟื้น-สร้างความเข้มแข็ง- ยั่งยืนให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม เป้าหมายคือ วัตถุดิบกุ้ง 400,000 ตัน เพื่อการส่งออก ให้ได้ในปี 2566 (ที่ไม่ใช่มาจากการนำเข้ากุ้ง)


นายเอกพจน์ ยอดพินิจ เปิดเผยว่า หลังจากสมาคมกุ้งไทย และตัวแทนอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องตลอดสายห่วงโซ่การผลิต ได้เข้าพบ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งสมาคมกุ้งไทยได้เสนอแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งเพื่อความยั่งยืนของประเทศ โดยการผลักดันเป้าการผลิตกุ้ง เฉพาะวัตถุดิบกุ้งเพื่อส่งออกให้ได้ 400,000 ตัน ภายใน 2 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาเรื่องการเลี้ยง โดยเฉพาะวิกฤติปัญหาโรค สาเหตุสำคัญที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรฯ เลี้ยงกุ้งไม่ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางกรมประมงพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่ด้วยมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ บุคลากรและอื่นๆ ทำให้การทุ่มเทศึกษาวิจัย รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การให้บริการตรวจวิเคราะห์ให้กับเกษตรกร มีข้อจำกัด ฯลฯ โรคยังคงเป็นวิกฤติปัญหาสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องเกษตรกร ทำให้ผลผลิตกุ้งครึ่งปีแรกของปี 2565 ลดลงถึง 1.76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าการแก้ปัญหาที่ผ่านมาไม่ตอบโจทย์ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง-เห็นเป็นรูปธรรมจากรัฐบาลโดยเร่งด่วนที่สุด

“ยืนยันได้ว่า 10 ปี หลังเกิดโรคระบาดในกุ้ง อุตฯ กุ้งไทย สูญเสียโอกาส-รายได้จากการส่งออกถึง 500,000 ล้านบาท ที่น่าห่วงอย่างยิ่งคือ ถึงวันนี้ยังแก้ปัญหาไม่ได้ วิธีที่รัฐพยายามช่วยยังไม่เวิร์ก/ไม่ตอบโจทย์ อีกทั้งการที่สื่อต่างประเทศได้เผยแพร่ข่าวว่ารัฐบาลของสาธารณรัฐเอกวาดอร์ได้ประกาศให้กุ้งเอกวาดอร์สามารถส่งออกไปยังตลาดประเทศไทยได้อีกครั้ง เพราะเอกวาดอร์สามารถดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย และความปลอดภัยทางชีวภาพได้ กรมประมงไทยยอมรับและมีประกาศอนุญาตให้มีการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์ และอินเดียนั้น สมาคมเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมกุ้งไทยในระยะยาว อาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ แบรนด์สินค้ากุ้งไทย (Branding) ความเชื่อมั่นในสินค้ากุ้งไทยของผู้นำเข้าและผู้บริโภค ที่สำคัญส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งภายในประเทศในระยะกลาง และระยะยาว เช่น ส่งผลกระทบโดยตรงราคากุ้งภายในประเทศ อาจนำกุ้งที่ติดเชื้อแฝง/ความเสี่ยงนำโรคเก่า/โรคใหม่เข้ามาเข้าประเทศสร้างความเสียหาย ทำให้เกษตรกรในประเทศอ่อนแอ-ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาให้เข้มแข็งและมีความสามารถในการแข่งขันฯ รวมถึงโอกาสที่อุตฯ กุ้งของประเทศจะได้รับการพัฒนาด้านต่างๆ น้อยลง ฯลฯ

สมาคมกุ้งไทยจึงได้เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึก เพื่อขอความอนุเคราะห์จาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการเร่งด่วน ดังนี้
1.ขอให้สินค้ากุ้งเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลเห็นความสำคัญ มีมาตรการการผลิตกุ้งในประเทศ เป้าหมายเพื่อ วัตถุดิบกุ้ง 400,000 ตัน เพื่อการส่งออก ให้ได้ในปี 2566 อย่างเป็นรูปธรรม (ผลผลิตไม่ใช่มาจากการนำเข้า) -สินค้ากุ้งเคยเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้เข้าประเทศได้ปีละมหาศาลมาอย่างต่อเนื่อง กว่า 100,000 ล้านบาท ในปี 2553 จากที่ผลิตกุ้งได้ถึง 640,000 ตัน แต่หลังจากประสบปัญหาโรคตายด่วน หรือ EMS และโรคอื่นๆ ตั้งแต่ปลายปี 2554 ผลผลิตกุ้งต่ำกว่า 3 แสนตัน และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไทยสูญเสียโอกาสรายได้กว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ สมาคมจึงขอให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน ให้มีทุกภาคส่วนสำคัญ อาทิ ภาคการผลิต-เกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง/ธนาคารแห่งประเทศไทย ฯลฯ มาบูรณาการทำงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด ฉับไว มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องเกษตรกร และสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมได้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง รวมถึงความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมกุ้งของประเทศ


2.แก้ไขปัญหาเรื่องโรค ให้พี่น้องเกษตรกรสามารถเลี้ยงกุ้งได้โดยเร็วที่สุด โดยจัดสรรงบประมาณ บุคลากร ฯลฯ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัย การดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาโรคให้สำเร็จ

3.สินค้ากุ้งเป็นสินค้าสำคัญของประเทศที่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องดูแลอย่างเข้มแข็งจากรัฐ การนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศเป็นเรื่องอ่อนไหวที่สุด ขอให้ช่วยดูแล-ปกป้อง สนับสนุนส่งเสริมภาพลักษณ์ แบรนด์สินค้ากุ้งไทย (Branding) ให้เป็นที่ยอมรับฯ รวมถึงเรื่องเชื้อโรคกุ้งที่มีอยู่ปัจจุบัน-/โรคอุบัติใหม่ที่อาจแฝงมากับกุ้งนำเข้า

“วันนี้สมาคมกุ้งไทย และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งมายื่นหนังสือเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี มาด้วยความห่วงใยอุตฯ กุ้ง และหวังที่จะได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จาก ฯพณฯ มานำทัพช่วยแก้วิกฤติปัญหาเรื่องโรคให้กับพี่น้องผู้เลี้ยงกุ้ง ด้วยมาตรการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมเต็มกำลัง ดึงภาคสำคัญมาร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ ซึ่งจะช่วยพลิกฟื้นกุ้งไทยให้สามารถมีวัตถุดิบจากการเพาะเลี้ยงภายในประเทศ เฉพาะเพื่อการส่งออกให้ได้ที่ 400,000 ตัน ภายในปี 2566 นำรายได้เข้าประเทศปีละเกือบแสนล้าน/กว่าแสนล้านบาทได้ เพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมกุ้งของประเทศโดยรวมอย่างแท้จริง” นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวทิ้งท้าย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]