“ศักดิ์สยาม” ติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวง รถไฟทางคู่ ลพบุรี

ลพบุรี 7 ส.ค. – “ศักดิ์สยาม” ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวง ทางหลวงชนบท รถไฟทางคู่ จังหวัดลพบุรี มั่นใจผุดคมนาคมขนส่งและเชื่อมต่อในภาคกลางให้ประชาชนเดินทางโดยสะดวก


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ว่า ตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งอย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกมิติทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านโครงข่ายคมนาคมในการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ของคนในพื้นที่ รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่ง และการแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดลพบุรีครั้งนี้ เพื่อติดตามความก้าวหน้าและเร่งรัดการดำเนินโครงการสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง

โดยในส่วนการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงนั้น กระทรวงคมนาคมมีโครงการก่อสร้างทางในพื้นที่จังหวัดลพบุรีที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 2 เส้นทาง ได้แก่ 1 โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 366 ทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ ตอน 1 ระยะทาง 6.550 กิโลเมตร (ขยายเป็น 4 ช่องจราจร) ปัจจุบันมีความก้าวหน้าโครงการ 65.58% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 66 , 2 โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 366 ทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ ตอน 2 ระยะทาง 7.952 กิโลเมตร (ขยายเป็น 4 ช่องจราจร) ปัจจุบันมีความก้าวหน้าโครงการ 71.68 %คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 66 เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีโครงการทางหลวงที่ได้รับงบประมาณในปี 65 (โครงการปีเดียว) อีก 11 โครงการ ระยะทาง 30.158 กิโลเมตร เช่น การพัฒนาทางหลวงย่านชุมชน การพัฒนาสะพาน ระบบระบายน้ำ เป็นต้น


ส่วนโครงข่ายทางหลวงชนบท นั้นกระทรวงคมนาคมโดยกรมทางหลวงชนบทมีโครงการที่ได้รับงบประมาณในปี 65 จำนวน 51 โครงการ วงเงินงบประมาณ 641.790 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการปรับปรุงเรขาคณิตของทาง ถนนสาย ลบ.2034 แยก ทล.21 – บ้านน้ำซับ ตำบลช่องสาริกา อำเภอพัฒนานิคม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและส่งเสริมการคมนาคมขนส่งให้ขยายตัวอย่างเป็นระบบ โครงการฯ ดำเนินการแล้วเสร็จ และ โครงการก่อสร้างถนนสาย ลบ.1036 แยก ทล.1 – บ้านป่าหวาย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมือง ส่งเสริมการคมนาคมขนส่งให้ขยายตัวอย่างเป็นระบบ คาดว่าแล้วเสร็จต้นปี 67

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนมิติการพัฒนาระบบรางนั้นกระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนารถไฟทางคู่ทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น แผนพัฒนารถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน (พ.ศ. 2560 – 2564) จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 993 กิโลเมตร แผนพัฒนารถไฟทางคู่ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2565 – 2569) จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 1,483 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการ และจัดทำรายงาน EIA และมีแผนพัฒนารถไฟทางคู่สายใหม่ระยะถัดไปอีก จำนวน 12 เส้นทาง โดยการพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ซึ่งมีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีบ้านกลับ สิ้นสุดที่สถานีปากน้ำโพ ก่อสร้างขนานไปกับทางรถไฟเดิม ก่อสร้างทางรถไฟ จำนวน 2 ทาง ได้แก่ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ (ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม) เป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทาง 19 กิโลเมตร และเลี่ยงเมือง ระยะทางรวม 29 กิโลเมตร และช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ (ช่วงท่าแค – ปากน้ำโพ) ระยะทาง 116 กิโลเมตร คาดว่าเปิดให้บริการในปี 66

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม มีแผนเร่งรัดการพัฒนารถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ ระยะทาง 2,506 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่ผ่านพื้นที่จังหวัดลพบุรี ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – พิษณุโลก ระยะทาง 380 กิโลเมตร จำนวน 7 สถานี ได้แก่ บางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตรและพิษณุโลก ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้เห็นชอบรายงาน EIA แล้ว และอยู่ระหว่างการหารือเรื่องรูปแบบการลงทุน


นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนการพัฒนาทางน้ำนั้นได้ดำเนินโครงการพัฒนาเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสัก หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 7 ตำบลท่ามะนาว อำเภอชัยบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาตลิ่งพังทลาย ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมทางถนนที่ประชาชนใช้เป็นทางสัญจรร่วมกัน รวมทั้งบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างของประชาชนบนฝั่ง ปัจจุบันมีความก้าวหน้าการดำเนินงาน 97% คาดว่าแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมปี 65

และ 2. โครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำภายในประเทศพื้นที่จังหวัดลพบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะตลิ่งพัง เพิ่มพื้นที่ในการระบายน้ำในฤดูน้ำหลาก และเพื่อกักเก็บน้ำไว้ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนระยะยาวอย่างยั่งยืน ซึ่งกรมเจ้าท่าดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 7 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 โครงการ คาดว่าแล้วเสร็จในปี 65

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมมีโครงการเพื่อเชื่อมโยงระบบการขนส่งสาธารณะ จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลพบุรี จำนวน 54 เส้นทาง รวมทั้งโครงการต่าง ๆ เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยกำกับดูแลตรวจสอบความปลอดภัยการเดินรถโดยสารสาธารณะ ตั้งจุดตรวจเข้มข้นรถโดยสารสาธารณะ Checking Point การตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกด้วยกล้องเลเซอร์ ศูนย์บริหารจัดการการเดินรถด้วยระบบ GPS ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย รองรับปริมาณการเดินทางและการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างเพียงพอ 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินงานทุกโครงการ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก รวมทั้งความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และดำเนินการตามมาตรการและแนวปฏิบัติระยะยาวสำหรับโครงการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคมทั้งหมด โดยเพิ่มมาตรการการตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย มีการนำระบบ Safety Audit มาใช้ในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ประชาชนถึงมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคม และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางขึ้นอีก รวมทั้งปรับปรุงโครงข่ายคมนาคมขนส่งในปัจจุบันให้มีความมั่นคงและความปลอดภัยเพิ่มขึ้น  

นอกจากนั้นยังได้มอบหมายให้หน่วยงานเร่งพัฒนาระบบและวิธีการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูล การดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมให้กระชับ รวดเร็ว ทันสมัย และครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคเอกชนในการจัดระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยพิจารณาให้ครอบคลุมทุกมิติเพื่อให้ตรงกับรูปแบบการใช้บริการของประชาชน รวมทั้งมีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาโครงข่าย โดยให้หน่วยงานคมนาคมในพื้นที่บูรณาการกับจังหวัดลพบุรี เพื่อใหัการจัดทำงบประมาณลงพื้นที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]