ทรู-ดีแทค ชี้ กสทช. ไม่มีอำนาจยับยั้งควบรวม

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – ทรู-ดีแทค เปิดพูดคุยความคืบหน้าควบรวม เชื่อ กสทช. ไม่มีอำนาจยับยั้ง แค่ออกเงื่อนไขแก้ข้อกังวลของประชาชน


นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการทรูคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การควบรวมเกิดจากการที่ทั้งสององค์กรเห็นว่า ทั้งสององค์กรมีความสามารถการแข่งขันน้อยลง ระบบนิเวศที่เปลี่ยนไป การแข่งขันเปลี่ยนไป สองปีที่ผ่านมารายได้ของอุตสาหกรรมมือถือ ผู้ให้บริการมีรายได้ลดลงทุกราย ขณะที่การลงทุนสูงขึ้นเพราะต้องเปลี่ยนเทคโนโลยี (รองรับ 5G) ทั้งหมดจึงทำให้ศักยภาพการแข่งขันลดลง

“ศักยภาพที่ถดถอยกับระบบนิเวศที่เปลี่ยนไปทำให้เรามองว่าการควบรวมจะทำให้การแข่งขันทำได้ดีขึ้น มีเทคโนโลยีใหม่ขึ้น เราพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง การควบรวมนี้จะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน แน่นอนว่ามันไม่ได้สมบูรณ์แบบในทันที แต่จะเป็นโอกาสที่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นจากการควบรวม 


ประธานคณะผู้บริหารซีพี กล่าวอีกว่า การควบรวมจะไม่มีการไล่คนออก แต่เป็นการทำให้ศักยภาพของทรัพยากรบุคคลของทั้งสองบริษัทที่จะนำไปสู่การแข่งขันที่ดีขึ้น ผลของการควบรวม ตัวบริษัท และใบอนุญาตประกอบกิจการยังอยู่เหมือนเดิม เราเป็นอีโคพาร์ทเนอร์ หรือเป็นพันธมิตรที่เท่าเทียมกันระหว่างกลุ่มซีพีและเทเลนอร์ เป็นบริษัทไทยที่ตั้งมั่นในการวางระบบนิเวศทางเทคโนโลยีตามยุทธศาสตร์ชาติ

“กสทช. อยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขที่ทุกคนเป็นห่วง งานวันนี้ไม่ใช่การกดดัน กสทช. จากการศึกษาของเรา กสทช. ไม่มีอำนาจในการยับยั้งการควบรวมกิจการ มีแต่เพียงการออกเงื่อนไขเพื่อคลายความกังวลของทุกภาคส่วน หากจะยังยั้งความร่วมมือครั้งนี้ต้องไปขออำนาจของศาลปกครอง เราจะอยากเห็นความร่วมมือเกิดขึ้นเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบกับตลาดทุนและผู้ถือหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดถึงบริการหรือสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับต้องล้าช้าตามไปด้วย ” นายศุภชัยกล่าว

นายซิคเว เบรคเก ซีอีโอ เทเลนอร์กรุ๊ป กล่าวว่า ความร่วมมือใรการควบรวมจะนำไปสู่การสร้างสรรค์บริษัทเทคเทเลคอมใหม่ โดยเป็นความร่วมมือที่เป็นความตั้งใจในการส่งมอบระบบนิเวศที่ดีให้กับประเทศไทย บริษัทใหม่นี้ เป็นความร่วมมือในการบริหารระหว่างซีพีและเทเลนอร์


สาระสำคัญของความร่วมมือยังนำไปสู่ การตั้งกองทุนมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 7,300 ล้านบาทในการ ตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอพั การตั้งศูนย์บ่มเพาะเทคเทเลคอม และการทำตลาดร่วมกันพันธมิตร สิ่งที่จะเทเลนอร์ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือนี้ คือการพัฒนา เทคโนโลยี 5G IOT , Edge Could และ Security

“ภาพรวมของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป แต่ยังมีโอกาสการเติบโต ประเทศไทยยังคงเป็นดิจิทัลแชมป์เปียน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรือการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล เราเห็นโอกาสว่าประเทศไทยเป็น สตาร์ติจิกโลเคชันในการทำธุรกิจโทรคมนาคม “นายซิคเว กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง